นครปฐม - รองผู้การฯนครปฐม แจงรวบตัวหนุ่มโพสต์เฟซบุ๊กเตรียมถล่มห้างดัง สุดท้ายไปไม่รอดตำรวจตามตัวมาสอบเจ้าตัวยังปฏิเสธ หากพบผิดดำเนินคดีทันที ขอประชาชนมั่นใจการทำงานตำรวจป้องเหตุร้าย ยังปฏิเสธ บอกถูกแฮกเฟซบุ๊ก เตรียมส่งมือถือ 3 เครื่องตรวจสอบละเอียด เพราะยังไม่ปักใจเชื่อ ตั้ง 3 ปมปัญหาของเจ้าตัวหากถูกปลอมชื่อ ขณะที่หลายท้องที่ติดต่อหลังมีคดีพันตัว
วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเฟซบุ๊กชื่อ “ตอนมี ดีทุกคน ตอนหมดยืมกูอีก” ซึ่งได้มีการโพสต์ภาพอาวุธสงครามและข้อความ “คิวต่อไปเซ็นทรัลศาลายา ได้ข่าวว่าศาลานี้มียาเยอะ เตรียมมาเยอะๆ นะจ๊ะ @Central plaza salaya” ก่อนจะถูกตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม และ สภ.สามพราน จังหวัดนครปฐม บุกจับนายต่อ (นามสมมติ) ซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้โพสต์ดังกล่าวได้ที่จังหวัดปทุมธานี
ล่าสุด พ.ต.อ.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.วิสูตร สถิตย์ ผกก.สภ.สามพราน พ.ต.ท.สมพร ศักโกระ สวป.รักษาราชการแทนรองผกก.ป. ได้มีการเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว ซึ่งหลังจากการจับกุมนายต่อ ผู้ต้องสงสัยที่ถูกนำตัวมาทำการสอบสวนโดยควบคุมตัวอยู่ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม
โดย พ.ต.อ.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม เผยว่า กรณีการดูแลรักษาความปลอดภัยในห้าง หรือสถานที่ต่างๆ นั้นได้มีมาตรการดูแลควบคุมอยู่แล้ว แต่มีบางคนนำเรื่องดังกล่าวไปลงเฟซบุ๊ก ซึ่งขณะนี้ได้นำไปควบคุมตัวแล้ว พร้อมขยายผลให้ชุดสืบสวน โดยเรื่องที่นำมาลงนั้นจะจริงหรือไม่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ต้องนำมาทำการสอบสวนให้ชัดเจน ถ้าผิดกฎหมายด้าน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็จะดำเนินคดีทันที
“ขอเตือนสำหรับผู้ที่จะใช้โซเชียล ว่า การกระทำที่ผิดนั้นจะส่งผลเสียกับตนเองและสังคม และไม่เป็นผลดีกับใคร ส่วนเรื่องความมั่นใจของประชาชนที่จะไปใช้บริการในสถานที่ที่มีคนเยอะนั้นขอให้มีความมั่นใจว่ามีมาตรการดูแลตามหลักการอยู่แล้ว”
พ.ต.อ.วิสูตร สถิตย์ ผกก.สภ.สามพราน เผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ไปได้ว่าผู้ ต้องสงสัยจะเป็นผู้กระทำความผิดหรือไม่ เพราะเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ เพราะช่วงที่ยังให้การอยู่มีผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กนี้เคลื่อนไหวอยู่โดยจะมีการสอบไปในเชิงลึกอีกว่าสิ่งที่ปฏิเสธมานั้นมีความเป็นไปได้หรือไม่
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อมูล พบว่า การนำตัวนายต่อ มาทำการสอบสวน ขณะที่ได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่บ้านพักในตำบลห้วยจระเข้ อำเภอเมืองนครปฐม ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ได้นำโทรศัพท์ทั้ง 3 เครื่องไปตรวจสอบและได้ส่งข้อมูลของเฟซบุ๊กไปให้ กสทช. ทำการตรวจสอบการใช้งานเพราะยังไม่ปักใจเชื่อ
นอกจากนี้ ยังพบว่าเจ้าตัวมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติด มีปัญหากับอริเยอะ และประเด็นในคดีฉ้อโกงอีกหนึ่งประเด็น รวมถึงประเด็นสุดท้ายคือเรื่องของการทะเลาะกับภรรยา โดยขณะควบคุมตัวเฟซยังรับแอดคนอื่นอยู่ แต่ไม่นานก็ปิดตัวไป ซึ่งตำรวจจะเร่งขยายผลให้ชัดเจนก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป และหากมีการแฮกเฟซบุ๊กจริง ก็จะมีการติดตามมาดำเนินคดี ขณะที่มีตำรวจหลายท้องที่มาสอบถามเนื่องจากมีคดีความอื่นๆ ติดตัวด้วย