ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ญาติเศร้ารับศพนักศึกษา มทร.อีสาน เหยื่อจ่าคลั่งยิงกราด กลับถึงบ้านเกิด อ.หนองบุญมากแล้ว ด้านสองรัฐมนตรีร่วมแสดงความเสียใจพร้อมเยียวยาครอบครัวเบื้องต้น 2 แสนบาท พร้อมมอบทุนการศึกษาให้น้องชายผู้ตายอีก 3 หมื่นบาท
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.05 น. นายวรุฒน์ ยืนทน และนางไพร ยืนทน บิดา และมารดาของนายเอกวิน ยืนทน อายุ 18 ปี นักศึกษาช่างอิเล็กทรอนิกส์ ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน หนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุ จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา คลุ้มคลั่งกราดยิงประชาชนไม่เลือกหน้ากลางเมืองโคราช เดินทางนำศพของบุตรชายกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด เลขที่ 87 หมู่ที่ 9 ต.บ้านใหม่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา
โดยมีนายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย นายอำเภอหนองบุญมาก พร้อมข้าราชการ ญาติสนิทมิตรสหายของครอบครัวผู้เสียชีวิต มารอรับศพกันเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะต้องมาสูญเสียจากเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อเช่นนี้
ในเวลาต่อมา ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม พร้อมนายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะ เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมกับกล่าวแสดงความอาลัยและมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้นรวมกว่า 200,000 บาท พร้อมมอบทุนการศึกษาให้แก่น้องชายของผู้เสียชีวิต คือเด็กชายเอกตะวัน ยืนทน อายุ 12 ปี อีกจำนวน 30,000 บาท
นอกจากนี้ ทางผู้บริหารบริษัทที่พ่อผู้เสียชีวิตทำงานอยู่ยังได้รับบรรจุพ่อผู้เสียชีวิตจากลูกจ้างเข้าเป็นพนักงานประจำ พร้อมจะดูแลทุนการศึกษาให้แก่น้องชายผู้เสียชีวิตจนกว่าจะจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้วย สร้างความตื้นตันใจให้แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก
สำหรับครอบครัวของนายเอกวินมีอยู่ทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย บิดา มารดา นายเอกวิน ผู้เสียชีวิต และน้องชายวัย 12 ปี อีก 1 คน ซึ่งนายเอกวินมีอุปนิสัยร่าเริงแจ่มใส มารยาทดี เรียนเก่ง เป็นที่รักของคนในชุมชนเป็นอย่างมาก แม้จะต้องพากเพียรเรียนอย่างหนัก แต่ก็ยังหาเวลาทำงานพาร์ตไทม์ในร้านพิชซา และรับจ้างขับแกร็บส่งอาหารเพื่อหารายได้ส่งเสียตนเอง ลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวอย่างแข็งขัน
นอกจากนี้ยังเป็นผู้ที่ชื่นชอบอาชีพทหาร และได้สมัครเรียนนักศึกษาวิชาทหารอยู่ในช่วงปีที่ 4 ด้วย หวังว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งที่จะได้มีโอกาสรับใช้ชาติอีกด้วย โดยวันนี้จะเป็นพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมวันแรก และจะได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.พ.นี้