นครปฐม- หนุ่มนครปฐมเซ็งจัด เผยกระเป๋าเดินทางถูกรื้อค้น และสร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองหายระหว่างเดินทางจากดอนเมือง-ภูเก็ต ด้วยสายการบินสีส้ม โดยขอเวลา 30 วันเพื่อตรวจสอบวงจรปิด
สายการบินสีส้มเดินทางจากดอนเมืองไปทำงานภูเก็ต ลืมสร้อยคอทองคำ พร้อมพระเลี่ยมทอง 3 องค์ไว้ในกระเป๋า พอถึงที่หมายรีบเปิดกระเป๋าตรวจสอบที่สายพานลำเลียงกระเป๋า พบกระเป๋าถูกรื้อเปลี่ยนรหัส ฉกสร้อยหายเพียง 1 ชั่วโมง เจ้าตัวเชื่อมีการทำเป็นขบวนการ โดยแจ้งความเป็นหลักฐานแล้ว ส่วนทางสายการบินขอเช็กของหายจากดอนเมือง หรือสนามบินภูเก็ต โดยขอเวลา 30 วันเพื่อตรวจสอบวงจรปิด
วันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายเอกชัย สุขสี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/2 ม.7 ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ว่า กระเป๋าเดินทางของตนเองที่ได้ทำการส่งให้สายการบินแห่งหนึ่งทำการโหลดไว้ใต้เครื่องเพื่อเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้ลืมกระเป๋าสะพายไว้ภายในมีสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท และพระเครื่องเลี่ยมทอง 3 องค์ ได้หายไป โดยได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ตรวจสอบ และได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแต่สุดเสียความรู้สึกไม่คิดว่ากระเป๋าจะถูกรื้อค้นเอาทรัพย์สินไป
นายเอกชัย สุขสี อายุ 44 ปี กล่าวว่า ตนเองเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยได้ซื้อกระเป๋าเดินทางกลับมาด้วย และได้มาพักที่บ้านนครปฐม 3 วัน ก่อนที่วันนี้จะเดินทางกลับไปที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อทำงาน โดยได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินจากสายการบินไทย ไลอ้อนแอร์ ขึ้นที่สนามบินดอนเมือง เที่ยวบินที่ Sl 760 เวลาออกเดินทาง 16.15 น. โดยเวลาประมาณ 15.30 น. ได้นำกระเป๋าขนาด 29 นิ้วสีน้ำเงิน ซึ่งใส่เสื้อผ้า และได้นำกระเป๋าสะพายข้างยี่ห้อโค้ช สีน้ำเงินเทาลายพรางใส่ลงไปด้วย ซึ่งภายในมีการถอดสร้อยคอกะลาตาเดียว มีลวดลายเป็นทองคำ น้ำหนัก 1 บาท และได้ห้อยพระเลี่ยมทอง จำนวน 3 องค์ ประกอบด้วย 1.เหรียญเต่า หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง 2.เหรียญเสมา หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม 3.เหรียญหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน รวมทั้งหมดมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นบาท
นายเอกชัย กล่าวอีกว่า ซึ่งหลังจากตนเองได้โหลดกระเป๋าลงไปให้เจ้าหน้าที่สายการบินที่สนามบินดอนเมืองแล้ว แต่เมื่อมาขึ้นเครื่องนึกขึ้นได้ว่าได้ลืมสร้อยคอเอาไว้ ซึ่งเริ่มไม่แน่ใจว่าจะสูญหายหรือไม่เพราะเคยได้ยินข่าวมาว่าที่สนามบินภูเก็ตนั้นมีกระเป๋าหายหลายครั้งจากคำบอกเล่าของเพื่อนที่เดินทางมาบ่อยๆ กระทั่งเวลา 17.30 น.เมื่อเครื่องถึงพื้นก็ได้รีบไปรอรับกระเป๋าที่สายพาน
โดยเมื่อได้รับก็รีบทำการเปิดตรวจสอบตรงนั้นทันที แต่ปรากฏว่า เมื่อกำลังจะเปิดกระเป๋าเดินทางรู้สึกไม่ดี เพราะกระเป๋าเดินทางที่เพิ่งซื้อมาจากประเทศญี่ปุ่นยังไม่ได้ทำการเปลี่ยนรหัส แต่ได้กดล็อกตามปกติ เดิมทีมีตัวเลขจากโรงงานคือ 000 แต่เมื่อจะเปิดออกกลับพบว่าตัวเลขได้เปลี่ยนไป จึงได้ปรับกลับมาเป็นเลขเดิม และเปิดออกดู พบว่า ภายในกระเป๋าถูกรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย ส่วนกระเป๋าสะพายซิปที่รูดปิดไว้ได้เปิดออกเมื่อล้วงเข้าไปพบว่าสร้อยคอพร้อมพระเลี่ยมทองคำทั้ง 3 องค์ได้สูญหายไปแล้ว
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ทันทีที่รู้ว่าของหายได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ของสายการบินให้รับทราบทันทีที่หน้าสายพาน โดยได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความ ซึ่งตนเองก็ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และนำเอกสารการแจ้งความมาส่งให้ที่สำนักงานสายการบินไทย ไลอ้อนแอร์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้บอกว่าจะแจ้งให้หัวหน้าหน่วยได้รับทราบและจะมีการดำเนินการเริ่มการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในวันจันทร์ และจะมีการทราบผลไม่เกิน 30 วัน ซึ่งจะมีการตรวจสอบว่าสูญหายที่สนามบินดอนเมือง หรือสนามบินนานาชาติภูเก็ต
โดยตนเองเพิ่งเคยเจอกับเหตุการณ์นี้ และเชื่อว่าต้องมีการทำเป็นขบวนการ โดยอยากฝากให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จะเดินทางโดยเครื่องบินที่มีการใส่ของมีค่าไว้ในกระเป๋าเดินทางที่จะต้องโหลดลงใต้เครื่องบิน และขอฝากทวงถามไปยังสายการบินดังกล่าว ว่า ระยะเวลาการดำเนินการจะช้าไปหรือไม่ เพราะหากการรอคิวเพื่อดำเนินการนานเกินไปอาจจะทำให้คนร้ายได้ของจากผู้โดยสารอีกหลายราย