พิษณุโลก - หนุ่มหึงโหดใช้ปืนยิงแฟนสาวไปรษณีย์วัดโบสถ์ กระสุนเข้าจมูกทะลุโหนกแก้มจนต้องวิ่งหนีตายซ้อน จยย.ไปโรงพยาบาล ก่อนเหนี่ยวไกจ่อยิงหัวตัวเองหวังฆ่าตัวตายอาการสาหัส
วันนี้ (7 ก.พ.) ร.ต.อ.สงวน พ่วงพลอย รอง สว.(สอบสวน) สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุยิงกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านพักเลขที่ 252 หมู่ 9 บ้านหนองขอน ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิเตียน ดีธงทอง รอง ผกก.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 6 กู้ชีพโรงพยาบาลวัดโบสถ์ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสมยศ โพธิ์อิ่ม อายุ 35 ปี สภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำเพียงตัวเดียว ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ศีรษะฝั่งขวา เลือดไหลนองกองเต็มพื้น หายใจรวยรินไม่ได้สติ กู้ชีพต้องช่วยกันปฐมพยาบาล และยังพบอาวุธปืนพกสั้นแบบแมกกาซีนตกอยู่ข้างลำตัว 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืน 2 ปลอก หัวกระสุนปืนขนาด .380 มม.จำนวน 1 นัด ตกอยู่ที่เกิดเหตุจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.อรพิน นวลจันทร์ อายุ 32 ปี เจ้าของบ้าน แฟนสาวของผู้ก่อเหตุ ถูกคมกระสุนอาวุธปืนชนิดเดียวกัน ยิงเข้าจมูกทะลุโหนกแก้มขวาเลือดไหลอาบ
นางบุญธรรม ภู่รุ่ง อายุ 54 ปี ป้าของ น.ส.อรพิน ผู้บาดเจ็บ ให้การว่า นายสมยศ ผู้ก่อเหตุ ทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ร้านซ่อมท่อไอเสียแห่งหนึ่งในตัว อ.เมืองพิษณุโลก ส่วน น.ส.อรพิน หลานสาวทำงานอยู่ไปรษณีย์ อ.วัดโบสถ์ และมีลูกติดกับแฟนเก่าเป็นเด็กชาย 2 คน ทั้งคู่เพิ่งคบหาดูใจกันมาเกือบ 1 ปีแล้ว แต่ระยะหลังทั้งคู่มักมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องหึงหวงเป็นประจำ เนื่องจากแฟนสาวหน้าตาดีและชอบออกไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน จนแฟนหนุ่มเกิดความหวาดระแวงกลัวว่าจะปันใจไปให้ชายอื่น กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมานายสมยศกลับจากทำงานแล้วมีปากเสียงกับแฟนสาวอีกรอบ จนแฟนสาวไล่ให้ออกไปนอนนอกห้องนอน พอเช้าวันนี้นายสมยศได้ออกไปส่งลูก จากนั้นกลับมาทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นใช้อาวุธปืนยิงแฟนสาว 1 นัด แล้วยิงศีรษะตนเองอีก 1 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ส่วนแฟนสาววิ่งหนีตายและซ้อนท้ายจักรยานยนต์รีบไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลวัดโบสถ์
ล่าสุดนายสมยศได้ถูกส่งตัวต่อมายังโรงพยาบาลพุทธชินราช ขณะนี้อาการอยู่ในขั้นโคม่ายังไม่พ้นขีดอันตราย โดยมีแพทย์และพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วน น.ส.อรพิน แฟนสาว อาการปลอดภัยดีแล้วอยู่ระหว่างพักรักษาตัว
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บอาวุธปืนไปตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงอย่างละเอียด รวมถึงสอบถามปากคำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุเกิด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป