ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “สนธิรัตน์” รมว.พลังงาน ลงพื้นที่เมืองขอนแก่นสานนโยบายพลังงานโรงไฟฟ้าชุมชน ลั่นเดินหน้ามุ่งให้ชุมชนได้ประโยชน์ไม่น้อยกว่า 60% ประกาศกร้าวคาดโทษหนักเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้อง หากรับสินบนโรงไฟฟ้าชุมชน
วันนี้ (4 ก.พ. 63) ที่ห้องประชุมเสียงแคน ภายในศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงพลังงานลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเพื่อมอบนโยบายพลังงานชุมชนเพื่อขับเคลื่อนพลังงาน มีการรายงานแนวทางการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย โรงไฟฟ้าชุมชน และนโยบายด้านพลังงานอื่นๆ จากพลังงานจังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และ มหาสารคาม และรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการพลังงาน มีผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ตัวแทนจากส่วนราชการเข้าร่วมรับฟัง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กระแสสังคมทั้งประชาชนและผู้ประกอบการตอบรับนโยบายพลังงานดีมาก กระทรวงพลังงานส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ตอบโจทย์ประชาชนฐานรากเข้าถึงพลังงาน เกิดประโยชน์ต่อชุมชนช่วยยกระดับให้ชุมชนมีรายได้อย่างมั่นคง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ทั้งสามารถลดพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจส่วนเกินหันมาปลูกพืชพลังงาน เช่น หญ้าเนเปียร์ ซึ่งเป็นพืชพลังงานที่สามารถนำไปจำหน่ายเป็นวัตถุดิบให้โรงไฟฟ้าชุมชน เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าขายเข้าระบบให้การไฟฟ้าฯ สร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ที่สำคัญยังช่วยลดปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จากการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรในที่โล่งแจ้ง ท้ายสุดทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจ และด้านสุขภาพ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อโรงไฟฟ้าชุมชนมาก ต้องการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการโรงไฟฟ้ากับชุมชน คาดว่ารายละเอียดหลักเกณฑ์การจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ น่าจะมีผู้สนใจขอตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนเกินเป้าหมายที่กระทรวงพลังงานวางไว้
แต่โจทย์หลักสำคัญคือ โรงไฟฟ้าชุมชนต้องเกิดประโยชน์แก่ประชาชนฐานรากในชุมชนไม่น้อยกว่า 60% สร้างเศรษฐกิจระดับล่างให้เข้มแข็ง มีชีวิตที่ดีขึ้น สามารถขายวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตรต่างๆ ทั้งฟางข้าว ตอข้าวโพด ฯลฯ ขายให้โรงไฟฟ้าชุมชนเป็นรายได้ ลดการเผา ลดปัญหาฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 ได้ด้วย
ทั้งนี้ นายสนธิรัตน์ได้ย้ำถึงเรื่องการอนุมัติจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการดำเนินงานร่วมกันกับชุนชน ให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานที่โปร่งใส หากมีเจ้าหน้าที่หรือผู้เกี่ยวข้องเรียกรับผลประโยชน์จากโครงการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนจะลงโทษสถานหนัก และให้ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาแจ้งข่าวด้วย