กาญจนบุรี - ทนายตั้มเผยไม่หนักใจ หลัง ผบ.ตร.สั่งถอดเทปบทสัมภาษณ์ หลังร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบโครงการไบโอเมตทริกซ์ แนะควรให้ตำรวจเอาเวลาไปตรวจสอบตามข้อสงสัยจะดีกว่า
วันนี้ (3 ก.พ.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ กล่าวถึงกรณีที่ ผบ.ตร.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถอดเทปบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการไบโอเมตทริกซ์ ขณะเดินทางมาว่าความที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ว่า จริงๆ แล้วไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไรเพราะการที่เราให้สัมภาษณ์ หรืออะไร เราไม่ได้ไปใส่ร้ายใคร เราให้ตามข้อเท็จจริง ถ้าเกิดทาง ผบ.ตร.บริสุทธิ์ใจ ก็ไม่ต้องไปกลัวอะไร เพราะว่าเราทำหน้าที่ตรวจสอบในฐานะประชาชนธรรมดา
หวังว่าจะได้รับคำตอบตามที่ต้องการแต่ก็ยังไม่ได้ อยากจะให้ ผบ.ตร.เอาเวลาให้ตำรวจมาตรวจสอบผมเรื่องการให้สัมภาษณ์หรือเรื่องคำพูดอะไรต่างๆ ไปดูแลเรื่องที่ผมร้องไปจะดีกว่ามันมีการทุจริตกันจริงหรือเปล่า ผมว่าอย่างนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่าที่จะมาเอาผิดกับคนที่ยื่นเรื่องร้องเรียนในการที่รัฐได้รับความเสียหาย
สำหรับโครงการนี้ใช้เงิน จำนวน 2.1 พันล้านบาท เท่าที่ผมเห็น ส่วนต่างราคาเฉพาะเครื่องไบโอเมตทริกซ์ ไม่รวมกับเครื่องสแกนอื่นอีกที่ผมยังไม่มีข้อมูล เครื่องไบโอเมตทริกซ์ตัวที่เป็นสแกนหน้าและลายนิ้วมือ และมีเครื่องอ่านอีกตัวหนึ่ง มันมีอยู่ 2 ชุด ชุดแรกมีอยู่ 2 ตัว ชุดที่ 2 มีอยู่ 3 ตัว โดยมีอยู่ 2 โครงการ โครงการละ 300 ล้านบาท รวม 600 ล้านบาท ในโครงการไบโอเมตทริกซ์ที่ผมเห็นว่าราคามันแตกต่างกัน
เราทำในฐานะประชาชนผู้ที่มีความโปร่งใสในการใช้งบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและก็ร้องเรียนไปที่ 4 นายพล สมมติว่าวันหนึ่งมีประชาชนลุกขึ้นมาขอให้มีการตรวจสอบ แล้วถ้าเกิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินคดีกับคนที่ร้องเรียนแบบนี้ทุกเรื่องหรือเปล่า แล้วถ้าเป็นแบบนี้คนอื่นเขาจะกล้ามาตรวจสอบหรือ
เพราะว่าผมคิดว่ามันน่าจะโปร่งใส ถ้าเกิดไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ขอให้ชี้แจงเรื่องที่ผมสงสัยมา หรือเอาเวลาไปชี้แจงกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ได้ หรือจะแถลงข่าวว่าที่ผมพูดมามันไม่จริงอย่างไร ซึ่งทุกวันนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้ออกมาพูดเลยว่าสิ่งที่ผมไปให้สัมภาษณ์มันเป็นเท็จ หรือว่ามันเป็นการใส่ร้ายอย่างไร ถึงตรงนี้ผมไม่ได้หนักใจอะไร เพราะเราบริสุทธิ์ใจ และเราไม่ได้ไปใส่ร้ายท่าน ผบ.ตร.