ตาก - ทีมกู้ชีพกู้ภัยต้องทำ CPR ยื้อชีวิตกันกลางดึก..รถพ่วงบรรทุกข้าวโพดเต็มลำเบรกแตกไฟไหม้ล้อก่อนพลิกคว่ำบนดอยรวก-ดอยร้อยศพในตำนาน ตัวรถไถลชนเสาไฟ-ป้ายบอกทางไกลกว่า 300 เมตร
ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ บุญปล้อง รองสารวัตรสอบสวน สภ.แม่ท้อ ต.แม่ท้อ อ.เมืองตาก ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงเสียหลักพลิกคว่ำบริเวณดอยรวก หรือที่ชาวบ้านเรียกขานเป็นดอยมรณะร้อยศพ บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 เส้นทางสายตาก-แม่สอด กม.ที่ 69-70 ขาเข้าตัวเมืองตาก เมื่อ 22.00 น.เศษที่ผ่านมา (2 ก.พ.) มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในอาการสาหัส จึงประสานหน่วยกู้ภัยตากร่วมใจสงเคราะห์เพื่อทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 70-8949 จังหวัดนครสวรรค์ ของ หจก.สจ.สุวรรณรัตน์ขนส่ง ที่บรรทุกเมล็ดข้าวโพดมาเต็มคันทั้งตัวแม่และตัวพ่วง ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ เทกระจาดข้าวโพดที่บรรทุกมาเต็มคันกระจายเกลื่อนถนนทั้งขาขึ้นและขาลงเขา
ด้านหน้ารถพบคนขับรถทราบชื่อต่อมาคือ นายประสงค์ แก้วคำนพ อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสไม่ได้สติ ตรวจสอบสัญญาณชีพอ่อนแรง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบช่วยกันทำ CPR พร้อมประสานทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสนับสนุนนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเพื่อยื้อชีวิตต่อไป
จากการสอบถามพยาน ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยเหลือเป็นคนแรกๆ บอกว่าขณะที่ขับรถลงดอยรวก ซึ่งเป็นทางลงเขาลาดชันยาวประมาณ 4-5 กม. พอมาถึงจุดเกิดเหตุรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวได้แซงรถของตนลงมาด้วยความเร็วผิดปกติ คาดว่าอาจจะเบรกแตก และพยายามจะเข้าทางหยุดฉุกเฉิน แต่โชคร้ายที่มีรถพ่วงอีกคันวิ่งขวางทางพอดี ทำให้ไม่สามารถบังคับรถเข้าทางหยุดฉุกเฉินได้ ระหว่างนั้นก็มีไฟลุกไหม้ที่ล้อรถก่อนจะเสียหลักพลิกคว่ำไถลชนขอบกลางถนนและเสาไฟฟ้าและเสาป้ายบอกทางจนหักตลอดระยะทางประมาณ 300 เมตร จนรถหยุดแน่นิ่ง ซึ่งพลเมืองดีก็รีบหยุดรถแล้วให้สัญญาณผู้ร่วมทางที่ตามท้ายมา พร้อมแจ้งเหตุก่อนจะเข้าไปช่วยเหลือและรีบช่วยกันดับเพลิงที่ไหม้บริเวณล้อรถ
หลังเกิดเหตุทำให้การจราจรบนเส้นทางสายตาก-ชายแดนแม่สอดทั้งขาขึ้นและขาลงเขาไม่สามรถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถดับเพลิงฉีดน้ำดันเมล็ดข้าวโพอออกจากช่องการจราจรเพื่อเปิดช่องทางเดินรถชั่วคราว แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะมีคราบน้ำมันบนพื้นถนน ทำให้รถบรรทุกหนักไม่สามารถขับไต่ขึ้นภูเขาได้ คาดว่าจะใช้เวลาในการเคลียร์ถนนประมาณ 8-10 ชั่วโมงจึงจะสามารถใช้การได้ตามปกติ