ชาวสวนเมืองจันท์เริ่มหวั่น จีนแก้ปัญหาไวรัสโคโรนาไม่ได้ทำตลาดส่งออกผลไม้พัง

จันทบุรี​ -​ ชาวสวนเมืองจันท์เริ่มหวั่น ผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่จีน​ อาจทำให้ผลผลิตผลไม้ในพื้นที่และภาคตะวันออกที่จะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดในอีก 1​ เดือนข้างหน้าได้รับความเสียหาย​ จากการส่งไปขายไม่ได้​ เผยจีนเป็นตลาดใหญ่ถึง​ 90​%

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา​ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นในเมืองอู่ฮั่น​ จนแพร่กระจายไปในหลายพื้นที่ของประเทศจีนอย่างรวดเร็ว​ และยังทำให้ในวันนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวในประเทศจีนแล้วเกือบ​ 1.5 ​หมื่นคน​ ไม่นับรวมการพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศทั่วโลก
 
ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย​ ที่ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวในหลายเมืองใหญ่แทบล้มทั้งยืนจากการหายไปของนักท่องเที่ยวตลาดใหญ่​อย่างกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนนั้น

วันนี้ ​(2​ ก.พ.) ผู้​สื่อข่าว​ได้ลงพื้นที่สำรวจ “ล้ง” รับซื้อผลไม้เพื่อการส่งออกใน​ จ.จันทบุรี​ ซึ่งในแต่ละปีจะมีการรับซื้อผลไม้จากชาวสวนเพื่อส่งไปขายยังตลาดใหญ่อย่างประเทศจีน​ พบว่า วันนี้ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มวิตกกังวลว่าหากในอีก 1 เดือนข้างหน้าซึ่งเป็นช่วงที่ผลไม้หลากชนิดใน จ.จันทบุรี และจังหวัดภาคตะวันออก​ จะเริ่มทยอยออกสู่ตลาด​ และหากทางการจีน​ยังไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสได้ก็จะทำให้ผลไม้ไทยถูกกองทิ้งจำนวนมหาศาลอย่างแน่นอน

ขณะที่​สมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย กัมพูชา จ.จันทบุรี ได้ร่วมกับ​สมาคมชาวสวนลำไย จันทบุรี หน่วยงานราชการต่างๆ และชาวสวนลำไยใน อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ได้ร่วมประชุมเพื่อหารือในประเด็นต่างๆ​ ที่อาจได้รับผลกระทบจากการส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีนไม่ได้​
 
รวมทั้งเรื่องการใช้สัญญากลาง หรือสัญญาซื้อขายผลไม้ที่ร่วมกันทำระหว่างสมาคมการการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย กัมพูชา จ.จันทบุรี สมาคมชาวสวนลำไย จ.จันทบุรี กับหน่วยงานราชการและผู้รับซื้อผลไม้​ หรือ “ล้ง” การแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน และปัญหาภัยแล้ง ซึ่งจัดขึ้นที่จุดผ่านแดนถาวรไทย กัมพูชา อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย กัมพูชา จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า ในวันนี้หลายฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีน​ รู้สึกเป็นห่วงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา​ เพราะเชื่อว่าจะทำให้การส่งออกผลไม้ไปยังจีนมีปัญหาแน่นอน​ หากรัฐบาลจีนแก้ไขปัญหาไม่จบภายใน​ 1 เดือนหรือ 1 เดือนครึ่ง เพราะผลไม้ไทย เช่น ทุเรียน มังคุด จะออกผลผลิตเป็นจำนวนมากจนในทุกปีสามารถส่งออกไปจีนได้​

แต่แม้จะยังไม่ถึง​ 1​ เดือน​ พบว่าผลไม้อื่นๆ ที่ส่งไปจีนในช่วงเวลานี้ได้รับผลกระทบแล้ว เช่น​ กล้วยไข่ ที่ในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาส่งไปขายที่จีนกิโลกรัมละ 35 บาท แต่ในวันนี้ราคาเหลือแค่เพียงกิโลกรัมละ 15 บาทเท่านั้น ซึ่งเกิดจากปัญหาเรื่องการส่งออกไปจีนได้น้อยลง

"ทั้งนี้ หากจีนไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องไวรัสดังกล่าวได้ ผลไม้กว่า 90% จากปริมาณผลผลิตทั้งหมดของ จ.จันทบุรี และจังหวัดอื่นในภาคตะวันออก​ก็จะต้องกองทิ้ง จากเดิมที่จีนเคยแย่งกันซื้อและมีเท่าไหร่ก็ไม่พอขายเนื่องจากจีนเป็นตลาดใหญ่สุดของการส่งออกผลไม้ไทย" ดร.รัฐวิทย์​ กล่าว