ศูนย์ข่าวศรีราชา - พบค้างคาวแม่ไก่นับหมื่นตัวเกาะตามต้นไม้ภายในวัดหลวงพรหมาวาส อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่และพระลูกวัดบอกไม่กลัวเชื้อไวรัสโคโรนา เหตุค้างคาวกับวัดอยู่ร่วมกันมานานหลายร้อยปี
จากข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่เริ่มจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ก่อนจะแพร่ระบาดไปยังหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ขณะที่ค้างคาวซึ่งตกเป็นจำเลยของโรคดังกล่าว ได้กลายเป็นสิ่งที่หลายคนทั่วโลกหวาดกลัว แต่ประชาชนและนักท่องเที่ยวใน จ.สระแก้ว กลับยังคงแห่เข้าชมความสวยงามของค้างคาวนับล้านตัว ที่พากันบินออกจากปล่องถ้ำเขาฉกรรจ์ในทุกช่วงเย็นเพื่อออกหากินยามกลางคืนในรัศมีโดยรอบ จ.สระแก้ว และประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมบอกว่าไม่กลัวว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนานั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานว่า ที่ จ.ชลบุรี เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีค้างคาวจำนวนมากอาศัยอยู่ร่วมกับชาวบ้านใน อ.พนัสนิคม มานานหลายปีจึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณวัดหลวงพรหมาวาส และได้พบกับ พระครูสิทธิธรรมานุวัตร เจ้าอาวาสวัด และยังเป็นเจ้าคณะอำเภอพนัสนิคม ที่ได้พาชมฝูงค้างคาวที่อาศัยอยู่ตามต้นไม้ต่างๆ ภายในบริเวณวัด
พร้อมเปิดเผยว่า พระและชาวบ้านไม่ได้รู้สึกกังวลหรือกลัวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาแต่อย่างใด เนื่องจากค้างคาวได้เข้ามาอาศัยอยู่ภายในวัดนานหลายชั่วอายุคน และที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีผู้เสียชีวิตจากค้างคาว
โดยวัดแห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2257 หรือประมาณ 305 ปีก่อน ผ่านเจ้าอาวาสมาแล้วถึง 14 รูป 14 รุ่น และไม่เคยมีประวัติการแพร่ระบาดของโรคร้ายจากค้างคาว
“ที่ผ่านมามักจะมีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาฯ มาวิจัยค้างคาวภายในวัด และจะลงพื้นที่มาติดตามความเป็นอยู่ของค้างคาวทุกๆ 3-4 เดือน หรือปีละประมาณ 4 ครั้ง ที่สำคัญในช่วงวันหยุด มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติพากันเข้ามาเที่ยวชม และถ่ายภาพค้างคาวแม่ไก่ เป็นประจำ ซึ่งทางวัดก็ได้ประชาสัมพันธ์ไม่ให้นักท่องเที่ยวทำร้าย หรือสัมผัสค้างคาว” พระครูสิทธิธรรมานุวัตร กล่าว
ด้าน น.ส.นิตยา ไหมทอง ครูประจำโรงเรียนวัดหลวงพรหมาวาส เผยว่า คณะครูไม่วิตกกังวลกับการอยู่อาศัยของค้างคาวแม่ไก่ เพราะโรงเรียนกับวัดก็อยู่คู่กันมานาน ส่วนข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนานั้น ทางโรงเรียนได้มีการป้องกันด้วยการให้ความรู้แก่นักเรียนในทุกเช้าว่าควรป้องกันตัวอย่างไร
เช่น การอยู่ในที่ชุมชนหรือที่แออัด ควรสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร รวมทั้งแปรงฟันหลังอาหารในทันที ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียน จำนวน 113 คน และยังไม่พบว่ามีเด็กนักเรียนหรือชาวบ้านเจ็บป่วยแต่อย่างใด