ฉะเชิงเทรา - กว่าปีที่รอคอย! ตร.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เรียก ผจก.แบงก์พร้อมพวกรับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกงเงินเสี่ยค้าอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของรีสอร์ตย่านบางคล้าเกือบ 7 ล้านบาท หลังใช้เวลากว่าปีร้องสื่อช่วย เบื้องต้น ยังให้การปฏิเสธ
จากกรณีที่ นายศักดิ์ชาย วณิชย์ถนอม อายุ 60 ปี นักธุรกิจค้าที่ดินและเจ้าของรีสอร์ตใน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทราได้ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวหลังเสียท่านายธนาคารใหญ่ ที่จับมือร่วมกับมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าของบริษัทนายหน้าจัดหาคนงานให้แก่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ขอกู้เงินหมุนเวียนระหว่างรออนุมัติเงินกู้แบงก์โดยใช้อัตราดอกเบี้ยสูงล่อใจ ทำให้ต้องสูญเงิน จำนวน 7 ล้าน เหตุเกิดเมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา
โดยนายศักดิ์ชาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ตั้งแต่เดือน ก.ค.2562 นั้น
ล่าสุด วันนี้ (28 ม.ค.) ร.ต.ท.(หญิง) แพรวพรรณ บุญค้ำ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้เรียกตัว นายนพรัตน์ อิทธิประทีป ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา เข้ารับทราบข้อกล่าวหา "ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์" พร้อมผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ประกอบด้วย นายสนับ มงคลรัตนะ น.ส.ฐิติยาภรณ์ แจ่มแจ้ง และนางกชกร มงคลรัตนะ
ขณะที่ นายนพรัตน์ อิทธิประทีป ได้เดินทางมาพร้อมทนายความส่วนตัว และยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ด้าน นายศักดิ์ชาย ณิชย์ถนอม ผู้เสียหายเผยว่า ในช่วงต้นเดือน ต.ค.2561 ตนเองได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จาก นายนพรัตน์ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อธนาคารแห่งหนึ่งว่า มีลูกค้าสินเชื่อของทางธนาคารกำลังขาดสภาพคล่อง และต้องการใช้เงินเข้ามาหมุนเวียนระหว่างรอการอนุมัติสินเชื่อจากทางธนาคาร เป็นเงินจำนวน 29 ล้านบาท
โดยมีความประสงค์จะขอกู้ยืมเงินจากตนเองเพื่อนำไปใช้จ่ายหมุนเวียนภายในบริษัท ด้วยความไว้วางใจผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อรายดังกล่าวซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันมานาน จึงยินยอมให้บุคคลซึ่งอ้างตนเป็นเจ้าของบริษัทนายหน้าจัดหาคนงานให้แก่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังกู้ยืมเงินเกือบ 7 ล้านบาท และมีผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อรายดังกล่าวเป็นผู้รับรองและยืนยันความน่าเชื่อถือให้
“เขาบอกว่าหากสินเชื่อของลูกค้าสาวรายนี้ได้รับการอนุมัติแล้ว ผู้จัดการคนนี้ซึ่งมีอำนาจที่จะหักเงินที่ได้รับการอนุมัติให้กู้ยืมจากทางธนาคาร เพื่อนำมาจ่ายคืนให้พร้อมอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี แต่เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 4 เดือนตามสัญญา หญิงสาวเจ้าของบริษัทจัดหางานกลับไม่นำเงินมาคืน และเมื่อทวงถามไปยังผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อธนาคารกลับปิดโทรศัพท์หนี กระทั่งเวลาผ่านมากว่า 1 ปี ก็ยังไม่ได้รับเงินคืน”
นายศักดิ์ชาย ยังเผยอีกว่า สาเหตุที่ต้องออกมาร้องเรียนเพราะต้องการเตือนภัยให้แก่คนในสังคมให้ได้รับรู้ว่าไม่สามารถที่จะไว้ใจใครได้เลย แม้แต่คนที่ทำงานในธนาคารและสถาบันการเงินใหญ่
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว นายศักดิ์ชาย ได้เคยออกมาเปิดเผยและร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนมาแล้วหลายครั้ง และล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2562 ที่ผ่านมา และในวันนี้พนักงานสอบสวนได้ทยอยเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องรวม 4 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
