ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - คืบหน้าคดีสาวพริตตี้ตกบิ๊กไบค์ดับกลางอุโมงค์เชียงใหม่ ครอบครัวสุดเศร้าตั้งศพบำเพ็ญกุศล พ่อและน้องสาวเผยยังทำใจไม่ได้สูญเสียกะทันหัน ขณะที่พ่อแม่หนุ่มบิ๊กไบค์มาพบพูดคุยช่วยค่าทำศพเบื้องต้นและจะพาลูกมาขอขมาภายหลัง
ความคืบหน้ากรณีเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 27 ม.ค. 63 พบศพ น.ส.ชนนิกานต์ ไชยวงค์ อายุ 26 ปี อยู่ในทางลอดแยกข่วงสิงห์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ สภาพมีแผลฉกรรจ์ โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ซ้อนท้ายจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนขับออกจากร้านเหล้าชื่อดัง กระทั่งมีผู้ผ่านไปพบเป็นศพปริศนา ส่วนชายหนุ่มที่ขับบิ๊กไบค์หายตัวไป ก่อนที่จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ยอมรับว่าเป็นคนขับบิ๊กไบค์และถูกแจ้งข้อกล่าวหา ขณะที่ศพของ น.ส.ชนนิกานต์นั้น หลังจากที่ถูกนำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่แล้ว ญาติได้รับออกไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดเจ็ดยอด ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วานนี้ (27 ม.ค.)
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (28 ม.ค.) บรรยากาศงานศพของ น.ส.ชนนิกานต์ ที่วัดเจ็ดยอด ในตัวเมืองเชียงใหม่ ทางเครือญาติและครอบครัวยังคงอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปอย่างกะทันหันของ น.ส.ชนนิกานต์ โดยนายเสกสรรค์ ไชยวงค์ พ่อของ น.ส.ชนนิกานต์บอกว่า จนถึงเวลานี้ยังรู้สึกเสียใจและทำใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวไปไม่ได้ โดยในคืนวันเกิดเหตุตัวเองนั่งรถทัวร์จากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ ระหว่างนั้นได้รับแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นและตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จากนั้นเมื่อถึงกรุงเทพฯ ได้นั่งเครื่องบินกลับมาเชียงใหม่ทันที ทั้งนี้ลูกสาวถือเป็นเด็กดีและเป็นลูกกตัญญู ตั้งใจทำงานหาเลี้ยงตัวเองและยังส่งเงินช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวทุกเดือน ทั้งให้พ่อแม่ รวมทั้งน้องสาวและน้องชายที่กำลังเรียนอยูใช้จ่าย
สำหรับทางหนุ่มขับบิ๊กไบค์ที่ น.ส.ชนนิกานต์ ซ้อนท้ายไปด้วยจนกระทั่งตกลงมาเสียชีวิตนั้น นายเสกสรรบอกว่า ตัวหนุ่มที่ขับบิ๊กไบค์ยังไม่ได้พบเจอหรือพูดคุยกัน แต่ช่วงเช้าวันนี้ (28 ม.ค.) ทางพ่อแม่ของหนุ่มคนดังกล่าวได้มาที่งานศพ พร้อมพูดคุยกันเบื้องต้นแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าจะพาลูกชายมากราบขอขมาศพและครอบครัวอีกครั้ง โดยรับปากว่าจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ และได้มอบเงินให้จำนวนหนึ่งใส่มาในซองเพื่อช่วยค่าทำศพ ซึ่งตัวเองไม่ทราบว่าเป็นจำนวนเท่าใด เพราะไม่ได้เปิดดู เนื่องจากยังทำใจไม่ได้ ส่วนคดีความนั้นตัวเองยังไม่ทราบว่าตำรวจมีการแจ้งข้ออะไรบ้าง ซึ่งขอให้เป็นเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการไปตามกฎหมาย โดยเวลานี้ตัวเองต้องการให้ความสำคัญกับการจัดการงานศพของลูกสาวก่อนเป็นอย่างแรก
ขณะที่ น.ส.วริศรา ไชยวงค์ อายุ 22 ปี น้องสาวของ น.ส.ชนนิกานต์ บอกว่า พ่อแม่ของตัวเองมีลูก 3 คน นางสาวชนนิกานต์ เป็นพี่สาวคนโต คนรองเป็นตัวเองและมีน้องชายอีกคน ทั้งนี้หลังเกิดเหตุทางญาติได้แจ้งข่าวให้ทราบ รู้สึกตกใจและเสียใจอย่างมาก เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น โดยช่วงกลางวันก่อนที่จะเกิดเหตุตัวเองและพี่สาวยังวิดีโอคอลพูดคุยกันอยู่เลย ซึ่งเมื่อทราบแล้วจึงเดินทางจากกรุงเทพฯ มารับศพและช่วยจัดงานศพให้พี่สาวที่เชียงใหม่ทันที สำหรับตัวเองและพี่สาวมีความสนิทสนมกัน รวมทั้งรักพี่สาวคนนี้มาก เพราะพี่สาวเป็นคนดี รักพี่รักน้องและรักครอบครัวมาก ที่ผ่านมาพี่สาวทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง และยังส่งให้ที่บ้านใช้จ่ายทุกเดือน รวมทั้งช่วยค่าเล่าเรียนให้ตัวเองและน้องชายด้วย ซึ่งการสูญเสียพี่สาวไป ไม่ใช่แค่ตัวเองที่ทำใจไม่ได้ แต่เป็นทุกคนในครอบครัว
ด้านการดำเนินคดีต่อหนุ่มขับบิ๊กไบค์รายนี้นั้น รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก แจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหา ได้แก่ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ประสบเหตุแล้วไม่ให้การช่วย และกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเบื้องต้นทางหนุ่มขับบิ๊กไบค์ที่เข้าพบพนักงานสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาตั้งแต่วานนี้ (27 ม.ค.) ได้ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกไปแล้ว