อุตรดิตถ์ - ชาวอุตรดิตถ์ตื่นข่าวโซเชียลฯ แชร์กันว่อน หลังโรงพยาบาลอุตรดิตถ์เฝ้าดูอาการอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์กลับจากจีนแล้วเป็นไข้ ไอ มีน้ำมูก
ขณะนี้ชาว จ.อุตรดิตถ์กำลังให้ความสนใจและตื่นตระหนกกับกระแสข่าวทางออนไลน์ว่า โรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ได้เฝ้าดูอาการของผู้ป่วยหญิงชาวอุตรดิตถ์ อายุราว 27 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศจีน เมื่อช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาช่วงแรก หลังจากพบว่ามีอาการไข้ มีน้ำมูก ไอ และจาม ซึ่งแพทย์ให้นอนพักในห้องปลอดเชื้อระหว่างรอผลการตรวจว่าจะเป็นเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่ ขณะเดียวกันทางโรงพยาบาลก็ให้ผู้ป่วยและญาติที่มาเฝ้าไข้ในโรงพยาบาลสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคแล้ว
ด้านนายแพทย์ อายุส ภมะราภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ขอยืนยันว่าขณะนี้โรงพยาบาลฯ ยังไม่พบผู้ป่วยหรือคนไข้ติดเชื้อไข้หวัดโคโรนา แต่ทางโรงพยาบาลฯ ได้ดำเนินการมาตรการเชิงรุก หากพบคนไข้รายใดที่เป็นไข้หวัดมาจากประเทศจีนจะดำเนินการเฝ้าระวังเอาไว้ก่อน
ส่วนผู้ป่วยรายดังกล่าวเพิ่งกลับจากประเทศจีน ขณะผ่านสนามบินตรวจคนเข้าเมืองตรวจไม่พบอาการ แต่พอกลับมาถึงที่อุตรดิตถ์ก็มีอาการไข้ น้ำมูก ไอจาม เบื้องต้นทางโรงพยาบาลฯ ได้ให้ญาติและคนไข้แต่ละตึกใส่หน้ากากเพื่อเป็นการป้องกันระวังโรคแล้ว
นายแพทย์ อายุสกล่าวอีกว่า โรงพยาบาลจำเป็นต้องทำการเฝ้าระวังเชิงรุกไว้ให้ดีและรวดเร็ว เพราะหากปล่อยให้คนกลุ่มเสี่ยงไปอยู่กับเด็กทั่วไปหรือกลับไปบ้านจะเกิดปัญหาในการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ ถึงแม้จะเป็นไข้หวัดธรรมดาก็ตาม เนื่องจากอาการคล้ายกันมาก แต่ยังไม่ใช่ผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนา
“เราจำเป็นต้องทำมาตรการเชิงรุกในเชิงวินิจฉัยดีกว่าปล่อยให้เป็นแล้วเผยแพร่หรือแพร่ระบาดจะทำให้ยุ่ง เพราะไวรัสโคโรนาเป็นกลุ่มไข้หวัดใหญ่เหมือนกันติดผ่านทางเชื้อไวรัส จะแพร่ได้เร็วมาก แต่ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนา และหากพบจะต้องรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ทางโรงพยาบาลก็ต้องเฝ้าระวังทุกคนที่สงสัย ส่วนใหญ่ที่ตรวจพบเป็นไข้หวัดธรรมดาคือไข้หวัดใหญ่”
ส่วนที่มีการแชร์กันในไลน์ในเฟซบุ๊กออกมา เนื่องจากทางโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ต้องเฝ้าระวังโดยสั่งการกับเจ้าหน้าที่พยาบาลและแพทย์ตั้งแต่แรกแล้วว่า หากพบผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดหรือต้องสงสัยให้เฝ้าระวังผู้ป่วยก่อนไปถึงห้องฉุกเฉินจะต้องแยกผู้ป่วยออกจากกันทันที คงไม่ปล่อยให้กลุ่มผู้ป่วยไข้หวัดไปตรวจที่ห้องฉุกเฉิน เพราะเกรงว่าจะพบติดเชื้อจริง เราจำเป็นต้องแยกตั้งแต่ช่วงนี้เลย เพื่อป้องกันคนอุตรดิตถ์ที่ยังไม่เป็นไข้หวัดด้วย เป็นการป้องปราบที่รวดเร็ว ดีกว่าปล่อยให้เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนแล้วมาป้องกัน อยากให้ช่วยแก้ข่าวในเรื่องนี้ด้วย คนไข้รายนี้ไม่ได้มาจากเมืองอู่ฮั่นในประเทศจีน โอกาสเป็นมีไม่มาก แต่จำเป็นต้องทำเพราะเป็นมาตรการในการป้องกัน ทำให้คนอุตรดิตถ์ปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม
ด้านนายเรืองเดช วงษ์หล้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์มีอาจารย์ที่สอนภาษาจีน 3 คน และนักศึกษาที่เดินทางมาจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน 80 คน รวมเป็น 83 คน ซึ่งทั้งหมดเดินทางมาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฯ นานหลายเดือนแล้ว ก่อนที่จะมีการระบาดของไวรัสโคโรนา
แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ทางมหาวิทยาลัยก็ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุตรดิตถ์มาตรวจสุขภาพทั้ง 83 คนแล้ว ไม่พบว่ามีอาการป่วยแต่อย่างใด และแม้จะไม่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ทางมหาวิทยาลัยฯ ก็ดูแลชาวจีนทั้ง 83 คนอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยช่วงนี้ก็ได้ทำความเข้าใจแล้วว่าไม่ควรออกไปด้านนอกที่มีคนอยู่จำนวนมาก เพราะคนทั่วไปรู้ว่าเป็นชาวจีน เกรงจะเกิดการตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ มีรายงานว่าผู้ป่วยที่ถูกโรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์กักตัวรายนี้ ก่อนหน้านี้ 2 ปีเคยศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ แล้วเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศจีน จากนั้นก็ได้ทำงานต่อที่จีน แต่ไม่มีการยืนยันว่าเป็นมณฑลไหนของจีน เมื่อมีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาช่วงแรกๆ ก็เดินทางกลับมายังประเทศไทยและกลับมาบ้านที่อุตรดิตถ์ แล้วเกิดอาการเป็นไข้ มีน้ำมูก ไอ จาม จึงไปทำการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์อุตรดิตถ์ หลังจากมีการสอบประวัติของผู้ป่วยแล้วพบว่าเดินทางกลับมาจากจีน ทางแพทย์จึงให้ผู้ป่วยแอดมิตด่วนเพื่อรักษาและตรวจว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่