หนุ่มกู้ชีพยังผวาภาพติดวิญญาณทางรถไฟงิ้วราย แต่คนพื้นที่ยันมีตัวตนไม่ใช่ผี

นครปฐม - กระแสวิจารณ์ยังไม่จบ หนุ่มกู้ชีพยันได้ยินเสียงหมาหอน เสียงหญิงครวญครางจริง ช่วงกู้ซากรถกระบะถูกรถไฟชนพังยับ เชื่ออาจเป็นวิญญาณในพื้นที่เฮี้ยน ส่วนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ภาพดังกล่าวเป็นคนในพื้นที่มายืนดูการกู้ซากรถ เป็นผู้รับเหมาในพื้นที่ โดยเรื่องดังกล่าวยังเป็นกระแสพูดถึงหลากหลายประเด็นในพื้นที่

วันนี้ (24 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีมีการแชร์ภาพถ่ายติดคล้ายวิญญาณ ขณะที่มีเจ้าหน้าที่กู้ชีพและอาสาสมัครมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม กำลังทำการช่วยเก็บกู้ซากรถกระบะบรรทุกน้ำตาลปี๊บที่ขับตกร่องถนนบนทางกั้นรถไฟ ม.4 ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณเวลา 20.00 น.ของวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในเหตุการณ์ดังกล่าวมีภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุบันทึกภาพไว้ได้ขณะที่มีประชาชนมาช่วยกันผลักรถบรรทุกคันดังกล่าว แต่ไม่สำเร็จ

กระทั่งมีขบวนรถไฟ ขบวนที่ 351 ธนบุรี-ราชบุรี กำลังมุ่งหน้าไปยังจังหวัดราชบุรีได้พุ่งชนอย่างจัง ทำให้คนที่ช่วยกันนับสิบคนต้องหนีกันกระจัดกระจายก่อนรถไฟจะพุ่งชนรถที่จอดแน่นิ่งอยู่บนที่กั้นอย่างจังจนรถพังแหลกเหลวไปทั้งคันมท่ามกลางสายตาของเจ้าของรถและผู้ที่มาช่วยกันคลี่คลายสถานการณ์ในเหตุการณ์ดังกล่าว

แต่จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ได้เข้ามาทำการเก็บกู้ซากรถคันดังกล่าวในช่วงกลางดึก และได้นำกำลังพร้อมเครื่องให้แสงสว่างเพื่อนำซากรถออกจากที่เกิดเหตุเพื่อให้ขบวนรถไฟสามารถเคลื่อนตัวออกไปได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครชัยศรี เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม และผู้สื่อข่าวที่อยู่ในสถานที่ดังกล่าว

จากนั้นเมื่อกู้ซากรถได้ก็ยกเลิกภารกิจ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม จุดนครชยศรี ได้มีการโพสต์ภาพการทำงานช่วยเหลือเหตุก็ยังเป็นภาพปกติไม่มีอะไรผิดสังเกต แต่ได้มีการนำภาพที่ชาวบ้านที่ผ่านมาถ่ายภาพได้เป็นภาพคล้ายติดวิญญาณคนโบราณไปคอมเมนต์ใต้ภาพการทำงานปรากฏว่าทำให้ผู้ปฏิบัติงานนั้นต่างขนลุกไปตามๆ กัน เนื่องจากทุกคนยืนยันว่าไม่มีใครเห็นบุคคลดังกล่าวทำให้เกิดกระแสข่าวลือไปทั่วว่า เป็นภาพวิญญาณเนื่องจากสถานที่ดังกล่าวมีเหตุการณ์อุบัติเหตุที่รถไฟพุ่งชนรถหลายครั้ง มีผู้เสียชีวิตหลายเหตุการณ์มาก่อนอาจจะเป็นวิญญาณที่เร่ร่อนอยู่แถวนั้นก็เป็นไปได้

โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับนายกิตติคุณ จันขัน อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว และได้พาไปดูที่เกิดเหตุโดยได้เล่าเหตุการณ์ว่า ช่วงเข้ามาช่วยในการกู้ซากรถ ตนเองไม่เห็นบุคคลในภาพที่มีประเด็นกัน แต่รู้เพียงว่าจู่ๆ มีเสียงหมาหอนซึ่งหลายคนก็มองหน้ากันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะพวกตนเองต่างรู้กันว่าถ้าออกเหตุถ้าเจออะไรผิดปกติจะไม่พูดกัน ซึ่งจังหวะเดียวกันตนเองยังได้ยินเสียงโหยหวนของผู้หญิง ยังคิดว่าใครมาเปิดคลิปหรือดูหนังแถวนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ซึ่งช่วงนั้นขนลุกเหมือนกัน และเชื่อว่าอาจจะมีสิ่งเร้นลับมาเตือนว่าที่นี่จะมีเหตุอะไรอีกหรือไม่ เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 4 ครั้ง คือเหตุที่รถกระบะถูกชนดับ 4 ศพ รถบรรทุกพ่วงถูกชนกระเด็นกลางที่กั้น และรถบัสถูกชนจนเป็นข่าวดัง และครั้งล่าสุดที่รถกระบะตกร่อง โชคดีครั้งนี้ไม่มีใครเป็นอะไร แต่ก่อนหน้าก็มีเกิดขึ้นมาหลายครั้งก่อนที่จะได้ที่กั้น ซึ่งจากการดูวันนี้พบว่า จุดข้ามทางรถไฟนั้นแคบทำให้รถต้องเบี่ยงกัน โดยรถคันที่ติดเมื่อคืนนั้นแหนบรถได้ไปขัดกับตัวรางรถไฟทำให้มีคนมาช่วยกันเข็นไม่ขึ้น

ขณะที่ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายสายชล โทรฟัก อายุ 55 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี ซึ่งมีบ้านพักอยู่ตรงข้ามกับจุดที่เกิดเหตุ บอกว่าในช่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองเห็นเหตุการณ์จึงได้ไปช่วยกันดันรถแต่เมื่อพยายามกันหลายคนไม่สำเร็จจึงได้สั่งให้คนขับลงมาจากรถช่วงสั้นๆ รถไฟก็พุ่งชนอย่างจัง โดยปัญหาที่นี่เกิดจากปริมาณรถที่มีมากโดยเฉพาะรถบรรทุก ซึ่งได้เคยมีการขอร้องความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วก็ได้ผลว่ารถบรรทุกจะมาวิ่งกลางคืน ส่วนรถที่มีปัญหาคือทางข้ามนั้นแคบเกินไป และอีกส่วนมีรถบรรทุกที่บรรทุกแกลบที่มีการต่อรถขยายเกินส่วนตัวรถมาก ทำให้เวลารถสวนกันก็จะเบี่ยงและตกร่องบ่อย ตอนนี้อยากจะประสานว่าขอให้การรถไฟฯ ขยายทางข้ามให้เพื่อความปลอดภัยและรถไม่ติดขัดแบบนี้อีก

ส่วนเรื่องที่มีประเด็นเรื่องภาพนั้นตนเองเป็นคนที่ไม่ได้ลบหลู่สิ่งที่มองไม่เห็น แต่จะบอกว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ชื่อนายสมชาย อายุประมาณ 60 ปี เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งได้สอบถามกันแล้วก็ได้ออกมายืนดูการกู้ซากรถจริงๆ โดยหากมองดูดีๆ ว่ามุมภาพนั้นที่มองเป็นสไบ น่าจะเป็นถุงมือของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ด้านหลัง ส่วนภาพที่ประเด็นนี้มีคนที่ทำงานที่อำเภอนครชัยศรีด้วยกัน ใช้ชื่อว่า อุแว๊ อุแว้ เป็นคนส่งภาพไปสอบถามว่าเป็นใครตนเองยืนยันว่ามีตัวตน ซึ่งตนเองอยู่ตรงนี้มานานแม้จะมีเหตุที่มีคนเสียชีวิตมาหลายครั้ง แต่ยืนยันว่าคนแถวนี้ไม่มีใครเคยเจอผีและไม่มีผีที่นี่

ทั้งนี้ เมื่อมีการออกมาโต้ประเด็นกันทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยืนยันว่ากล้องของเจ้าหน้าที่ไม่มีการถ่ายติดภาพของคนที่ชื่อว่านายสมชาย จากกล้องหลายๆตัว โดยบางคนบอกว่ากระจ่างในความสงสัย แต่หลายคนยังเชื่อว่าภาพดังกล่าวคือการถ่ายติดสิ่งเร้นลับจริงๆ และยังมีการจับกลุ่มพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา และรอการพิสูจน์ให้ชัดเจนต่อไป