เลย-ผู้การฯเมืองเลยเข้มสั่งทุกโรงพักตรวจจับมือเผาป่าเผาอ้อย แม้แต่รถขนอ้อยเผาก็เว้นไม่ได้ หลังชาวบ้านร้องฝุ่นจิ๋วฟุ้งกระจายทั่วเมืองเพราะเผาอ้อยขนอ้อยทำเถ้าใบอ้อยปลิวว่อน ลั่นเจอใครเผาให้จับดำเนินคดีทันทีและไม่มีออมชอม
หลังจากเกิดปัญหาชาวบ้านลักลอบเผาอ้อย เพื่อเร่งตัดส่งเข้าโรงงานน้ำตาล ก่อนที่โรงงานจะปิดหีบอ้อยในกุมภาพันธ์นี้ หลายจุดไฟได้ลุกลามไหม้เข้าไปในป่า ทำให้เกิดหมอกควันปกคลุมทั้ง จ.เลย ชาวบ้านชาวเมืองต่างเผชิญทั้งเศษฝุ่นจิ๋ว PM2 และขี้เถ้าของใบอ้อยหรือหิมะดำ ลอยปลิวว่อนในอากาศ สร้างความเดือดร้อนกันไปทั้งจังหวัด
ล่าสุด วันนี้(21ม.ค.)พล.ต.ต.วิบูลย์ วงค์ก้อม ผบก.ภ.จว.เลย มีคำสั่งให้ สถานีตำรวจภูธรทุกแห่งในจังหวัดเลย เข้มงวดตรวจตราจับกุมมือเผาป่า และ เผาไร่อ้อย รวมทั้งการขนส่งขนอ้อยที่เผา ซึ่งทำให้มีเศษฝุ่นปลิวว่อนสร้างความรำคาญกับผู้สัญจร ให้จับและดำเนินคดี ทั้งจำทั้งปรับ จนถึงที่สุดแห่งคดี
พล.ต.ต.วิบูลย์ วงค์ก้อม ผบก.ภ.จว.เลย เปิดเผยว่า ได้วางมาตรการควบคุมการเผาอ้อยของชาวบ้าน ไว้ 2 แนวทาง แนวทางแรกเรื่องของการป้องกันและการประชาสัมพันธ์ โดยผ่านผู้นำชุมชน และแนวทางที่ 2 การดำเนินคดี เนื่องจากสภาพของจังหวัดเลย ประมาณ 80 % ของพื้นที่เป็นภูเขา สภาพเป็นป่า ฉะนั้นเมื่อมีการเผาอ้อย จึงมีโอกาสที่จะรุกลามเข้าไปในเขตป่า เขตอุทยานแห่งชาติ และถ้าหากรุกลามไปแล้วยากที่จะดำเนินแก้ไข
“ในเรื่องนี้ได้รับคำสั่งจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กำชับให้ตำรวจทุกสถานีจัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกตรวจตราร่วมกับฝ่ายปกครอง หลังจากได้รับการแจ้งเหตุเรื่องของการเผาป่า เผาอ้อย ต้องทำงานให้รวดเร็วมีประสิทธิภาพ”พล.ต.ต.วิบูลย์กล่าวและว่า
หากตรวพบผู้กระทำความผิดต้องทำการจับกุมและให้ดำเนินคดีถึงที่สุด แต่ถ้าหากไม่พบ ให้เจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ นอกจากนี้ได้กำชับให้ตำรวจในพื้นที่หาข่าวและป้องปราม สืบว่าพื้นไหนที่คาดว่าจะเผาอ้อย ให้ซุ่มกำลังติดตามหากพบกำลังจะเผาให้รีบจับมาดำเนินคดีทันที
พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องความผิดต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริงเป็นเรื่องๆไป หากที่ชัดเจนในเรื่องของกฎหมายอาญาที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้อันเป็นอันตรายต่อทรัพย์สินอื่น และอีกส่วนตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข การเกิดฝุ่นละออง หากไหม้ใกล้ทางหลวงก็ใช้ พ.ร.บ.ทางหลวง
ส่วนในเรื่องการขนอ้อยที่เผา ที่บรรทุกมาที่มีลักษณะตกหล่น มีฝุ่นละอองต่างๆ ได้กำชับให้ตำรวจที่พบเห็นดำเนินคดีตามกฎหมายการจราจรทางบกทันที