อุตรดิตถ์ - ญาติเตรียมก่อกองฟอนฌาปณกิจเหยื่อเรือล่มกลางอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์ พร้อมกันพฤหัสฯ ที่ 23 มกราคมนี้ ขณะที่ผู้รอดชีวิตเผยนาทีเรือชนตอล่ม แค่ 2 นาทีน้ำเข้าเต็มเรือ คนบนเรือทำได้แต่วิ่งไปมาก่อนหาขอนไม้-ถ่อเรือหนีเข้าฝั่ง
วันนี้ (21 ม.ค.) ศาลาการเปรียญวัดท่าปลา ต.ท่าปลา อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ เต็มไปด้วยความเศร้าสลด หลังมีการนำศพเหยื่อเรือล่มกลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย นายประเรียน อภิยะ คนขับเรือ, นางปรีดา อภิยะ, น.ส.สุนิตตรา น้อยขัน, นายจันทร์ น้อยขัน และนายสนิท น้อยขัน ซึ่งเป็นญาติพี่น้องกัน มาตั้งบำเพ็ญกุศลคืนที่ผ่านมาเป็นคืนแรก
โดยญาติผู้เสียชีวิตร่วมกันถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ และอุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิต และนำอาหารหวานคาวและน้ำตั้งวางไว้บนฝาโลง จุดธูปบอกกล่าวเพื่อหวังให้ดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตกะทันหันไม่มีการสั่งเสียหรือสั่งลาได้กินอาหารที่นำมาทำบุญให้ และได้ปรึกษาหารือกันเพื่อจัดเตรียมพิธีฌาปนกิจศพว่าจะดำเนินการกันอย่างไร จะเผาแยกแต่ละครอบครัว ซึ่งต้องใช้เวลา 2 วัน หรือจะเผารวมพร้อมกันที่เดียวในวันเดียวกัน เบื้องต้นทางญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย ตกลงกันว่าจะฌาปนกิจผู้เสียชีวิตพร้อมกันทีเดียวเนื่องจากทั้งหมดเป็นญาติพี่น้องกัน ถึงแม้จะต่างสายเลือดแต่ก็มีความผูกพันกันมา โดยกำหนดวันฌาปนกิจวันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคมนี้ เวลา 16.00 น. ด้วยพิธีโบราณด้วยการตั้งกองฟอนไม้
ขณะที่ผู้รอดชีวิตจำนวน 6 คน ประกอบด้วย 1. นายก้อย ยาสี 2. นายชีวทัศน์ อภิยะ 3. นายธิติวุฒิ น้อยขัน เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นางพญา 4. นายพร ใจโสภา 5. นายมานะ ธรรมวงศ์ และ 6. ด.ญ.สุภาวดี ธรรมวงศ์ อายุ 9 ขวบ ต่างก็โศกเศร้าต่อการสูญเสียญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านจากอุบัติเหตุครั้งนี้
นายมานะ ธรรมวงศ์ 1 ใน 6 ผู้รอดชีวิตจากเหตุเรือล่ม กล่าวว่า เรือเกิดเหตุเป็นเรือส่วนบุคคลสำหรับบรรทุกสินค้าพืชผลทางการเกษตรนำไปขาย ไม่ใช่เรือโดยสาร ตนร่วมเดินทางมาพร้อมกับภรรยาและลูกสาว ระหว่างที่เรือวิ่งชนตอไม้ทุกคนบนเรือต่างโกลาหลวิ่งไปมาอยู่บนเรือ จากนั้นไม่นานน้ำก็เข้าเรือและล่มจมลงในน้ำ ทุกคนต่างเอาตัวรอดหาสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวเกาะเอาไว้ ตนเองอาศัยเกาะลำไม้ไผ่ที่มากับเรือช่วยลอยคอ เห็นลูกสาวคือ ด.ญ.สุภาวดี จึงรีบเข้าไปช่วยลูก บอกให้ลูกเกาะไม้ไผ่ให้ดีเกาะให้แน่น แล้วใช้เท้าตีน้ำลอยคอเข้าฝั่งที่เกาะสิงโต
“น้ำในอ่างเขื่อนสิริกิติ์มีความเย็นมาก เมื่อถึงฝั่ง ลูกสาวรู้สึกหนาวและเริ่มเป็นไข้ มองบนเกาะพบผู้รอดชีวิตทยอยเข้าฝั่งส่วนภรรยาคือ น.ส.สุนิตตรา น้อยขัน จมอยู่ในน้ำ ทราบภายหลังเสียชีวิตแล้ว ตอนนี้ลูกสาวนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลท่าปลา เนื่องจากน้ำเข้าปอด”
นายชีวทัศน์ อภิยะ ผู้รอดชีวิตอีกคนกล่าวว่า ตนเดินทางมาพร้อมกับภรรยาคือนางปรีดา อภิยะ บอกว่าด้านหน้าเรือฝั่งซ้ายได้ชนกับตอไม้ คนบนเรือแตกตื่นวิ่งไปมา ขณะเดียวกัน น้ำก็เข้าเรือ ประมาณ 2 นาทีเรือจมลงในอ่างน้ำเขื่อนสิริกิติ์ทันที ตนคว้าไม้ถ่อเรือได้จึงยึดเอาไว้เพื่อลอยคอเข้าฝั่งโดยที่ไม่สามารถช่วยเหลือภรรยาได้เลย
“รู้สึกเสียใจมาก ส่วนน้องชาย นายประเรียน อภิยะ เจ้าของเรือและคนขับเรือ ทราบภายหลังว่าเสียชีวิต ก็รู้สึกเสียใจมากด้วยเช่นกัน อยากให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์ให้แก่ผู้ใช้เรือทุกคน ภายในเรือควรมีเสื้อชูชีพและควรสวมใส่ทุกคน เพื่อระวังภัยจากเหตุเรือล่มในครั้งต่อไป”
ทั้งนี้ เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ระบุถึงระดับน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์วันนี้อยู่ที่ระดับ 139.88 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 4,628.44 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 48.67% ปริมาณน้ำพร้อมใช้งาน 1,778.44 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบม.) หรือ 26.70% ยังสามารถรับน้ำได้อีก 4,881.56 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 51.33 % มีปริมาณน้ำไหลเข้า 2.54 ล้านลูกบาศก์เมตร
หากเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาวันเดียวกันนี้ ระดับน้ำปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 151.22 เมตร รทก. โดยแตกต่างปีนี้ 11.34 เมตร ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ปีที่ผ่านมา 6,918.93 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 72.75 % อย่างไรก็ตามระดับน้ำที่ต่ำสุดตั้งแต่เขื่อนสิริกิติ์เก็บน้ำมาตั้งแต่ปี 2516 เป็นต้นมา คือ เดือนกรกฎาคม 2535 อยู่ที่ระดับ 128.85 เมตร (รทก.) หรือมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 31 เปอร์เซ็นต์เศษเท่านั้น
เจ้าหน้าที่ห้องควบคุมการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ให้ข้อมูลว่า ตอไม้ที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ช่วงฤดูแล้ง ทางเขื่อนไม่มีการสำรวจ แต่การเดินเรือโดยสารหรือเรือทั่วไปนั้น ผู้ที่ขับเรือก็จะทราบเส้นทางการเดินเรือ หรือร่องน้ำอยู่แล้ว แต่ที่การเกิดอุบัติเหตุเรือชนตอไม้แล้วล่มจนมีผู้เสียชีวิต 5 ศพ คนขับเรืออาจจะลืมว่าทางเขื่อนระบายน้ำช่วยด้านการเกษตรและรักษาความสมดุลทางธรรมชาติในแม่น้ำน่าน ทำให้น้ำลดลงวันละ 10 เซนติเมตร จนอาจจะมีตอไม้โผล่ขึ้นมา ซึ่งก็เป็นช่องเดินเรือหรือร่องน้ำนั้นๆ ก็เป็นได้ แม้จะเคยเดินเรืออยู่ทุกวันก็ตาม ระดับน้ำที่ลดลงการเดินเรือก็ต้องระมัดระวังให้มากๆ กว่านี้
อย่างไรก็ตาม ตอไม้ที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ก่อนหน้านี้เคยมีอยู่จำนวนมาก แต่หลังจากน้ำลดลง หรือช่วงฤดูแล้งที่ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเหลือน้อยลงก็มีประชาชนเข้าไปตัดไปทำประโยชน์จำนวนมาก จนตอไม้เหลืออยู่ในอ่างน้อยลงมากแล้ว