ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเมืองพัทยา สั่งเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเฝ้าระวังปัญหาฝุ่นพิษ หลังพบค่า PM 2.5 ในพื้นที่กลับมาสูงอีกครั้ง แนะประชาชน-นักท่องเที่ยวสวมหน้ากากกันฝุ่นขณะออกที่โล่งแจ้ง
วันนี้ (21 ม.ค.) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยถึงมาตรการเฝ้าระวังปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่ฟุ้งกระจายในหลายพื้นที่ทั่วประเทศจนส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน รวมทั้งหลายจุดสำคัญในเขตตัวเมืองชลบุรี และศรีราชา ซึ่งเป็นเมืองที่มีการลงทุนภาคอุตสาหกรรมและการจราจรหนาแน่น ไม่เว้นแม้แต่เมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างเมืองพัทยาที่พบค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมอย่างต่อเนื่อง
โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่สำนักการช่าง เจ้าหน้าที่สำนักการสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อม เร่งรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเฝ้าระวังและสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน รวมทั้งการอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง และควรงดหรือชะลอการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมกลางแจ้งจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะเดียวกัน เมืองพัทยายังเน้นย้ำเรื่องการทำความสะอาดถนน และกำชับให้เจ้าหน้าที่สำนักการช่าง ดูแลผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการก่อสร้างต่างๆ ในพื้นที่ทั้งของรัฐและภาคเอกชน ป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นขณะทำการก่อสร้างด้วยวิธีการต่างๆ
“ในส่วนของเมืองพัทยา จะเห็นภาพความชัดเจนของค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในช่วงเช้าและเย็นที่มีการสัญจรหนาแน่น หลังจากนั้นค่าฝุ่นก็จะเริ่มลดลง ประกอบกับเมืองพัทยา เป็นเมืองที่อยู่ติดทะเลจึงทำให้กระแสลมที่พัดผ่านส่งผลให้ค่าฝุ่นขนาดเล็กเบาบางลงได้ในบ้างช่วง”
อย่างไรก็ดี ขณะนี้เมืองพัทยา ยังคงพบค่าฝุ่นขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 เกินมาตรฐานเพียงไม่กี่วันจึงได้มีการปรับย้ายเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ ไปติดตั้งที่บริเวณสามแยกพัทยากลาง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพการจราจรที่หนาแน่น เพื่อให้ทราบค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่แต่ละจุดว่ามีปริมาณค่าฝุ่นที่แตกต่างกันหรือไม่
“อยากจะฝากเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวว่าทุกครั้งที่ต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งควรสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ได้รณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเองในเบื้องต้น โดยหน้ากากอนามัยซึ่งมีหลายระดับ ดังนั้น การนำมาสวมใส่ต้องใช้ให้ถูกต้องตรงกับสภาพอากาศด้วย” นายกเมืองพัทยา กล่าว
