อ่างทอง - สวนกล้วยเริ่มแห้งเหี่ยวรอวันตาย หลังกระทบภัยแล้งขาดแคลนน้ำ กระทบกล้วยตายยกสวน หวังรอน้ำฝนมาช่วยหล่อเลี้ยง แต่ก็ไร้วี่แวว
วันนี้ (20 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะภัยแล้งลุกลามขยายวงกว้างกระทบชาวสวนกล้วยหลาย 10 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลหัวไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ยืนต้นแห้งเหี่ยว หักโค่น เนื่องจากขาดน้ำหล่อเลี้ยงนานนับเดือนทำให้ ผลผลิตเสียหายจำนวนหลาย 10 ไร่ ชาวบ้านขาดรายได้จุนเจือเลี้ยงครอบครัว ได้แต่เฝ้ารอน้ำฝนในฤดูจะได้ตกลงมาเพื่อให้หล่อเลี้ยงต้นกล้วยที่กำลังเสียหายหนัก คาดหากฝนไม่ตกกล้วยตายยกสวนอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง
ด้าน นางวรรัตน์ จันทร์พละ อายุ 60 ปี เจ้าของสวนกล้วย หมู่ 3 ตำบลหัวไผ่ กล่าวว่า ตนเองได้ทำสวนกล้วยเป็นอาชีพ จำนวน 6 ไร่ โดยจะตัดกล้วยและเครือกล้วยสร้างรายได้ แต่ในช่วงเกิดภาวะแล้งขาดแคลนน้ำหล่อเลี้ยงต้นกล้วย ทำให้ขณะนี้ต้นกล้วยแห้งเหี่ยวหักโค่นยกสวนรอวันตาย ตนเองขาดรายได้ เฝ้ารอให้ฝนตกลงมาเพื่อทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติกลับคืนมา แต่ก็ไร้วี่แวว อยากให้รัฐบาลขุดบ่อบาดาลช่วยเหลือเกษตรกร
ทางด้านนางจิตนา มั่นทอง อายุ 63 ปี เจ้าของสวนกล้วยและปลูกผักขาย กล่าวว่า หลังเกิดภัยแล้งหนัก ไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยงต้นกล้วย ทำให้ต้นกล้วยเกิดการแห้งเหี่ยว และหักโค่นรอวันตายยกสวน รวมทั้งสวนผักที่กำลังจะตาย ทำให้ขาดรายได้ วอนหน่วยงานรัฐช่วยขุดบ่อบาดาลช่วยเหลือเกษตรที่กำลังเดือดร้อนขาดรายได้เนื่องจากภัยแล้งลุกลามอย่างหนัก
ด้าน นางกชกร อ่อนดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 กล่าวว่า พื้นที่เกษตรในหมู่ 3 ตำบลหัวไผ่ กระทบภัยแล้งเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบชาวนาต้องหยุดทำนาขาดรายได้ ส่วนสวนเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว โดยเฉพาะสวนกล้วย มีหลายแปลงเริ่มแห้งเหี่ยวยืนต้นรอวันตาย เกษตรกรขาดรายได้ หากได้มีการขุดเจาะบ่อบาดาลจะเป็นการช่วยต่อลมหายใจให้เกษตรกรได้มีอาชีพสร้างรายสู้ภัยแล้งต่อไป