อุทัยธานี - ผู้ใหญ่บ้านบ้านเกาะอีเพลิน ตำบลหนองยาง ตั้งกลุ่มจักสานใช้ภูมิปัญญาผู้สูงอายุ ทำผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่สร้างรายได้ให้กลุ่มผู้สูงอายุต่อคนละไม่ต่ำกว่า 6,000 บาทต่อเดือน แถมมีออเดอร์สั่งทำยาวถึงเดือน ก.พ.แล้ว
นายสายัญ พลนาค ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านเกาะอีเพลิน ตำบลหนองยาง จ.อุทัยธานี เปิดเผยถึงที่มาในการรวมกลุ่มผู้สูงอายุทำจักสานหารายได้ว่า จากการที่เล็งเห็นถึงการสร้างอาชีพและรายได้ให้คนในชุมชนที่ปัจจุบันสามารถเป็นบ้านหลังเล็กให้กับกลุ่มผู้สูงวัย และคนในชุมชนได้ทำประโยชน์ร่วมกัน โดยกลุ่มจักสานที่นี่นั้นจะเป็นวัสดุที่ทำมาจากไม้ไผ่ จักสานด้วยมือที่ชำนาญและประณีตทุกชิ้น จึงทำให้ที่กลุ่มจักสานแห่งนี้มีกลุ่มลูกค้าเข้ามาสั่งสินค้าจากไม้ไผ่ ทั้งแคร่นั่งเล่น ร้านขายของ โต๊ะกินข้าว ห้องนั่งเล่น เก้าอี้ เปลนอน จนคิวยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ สร้างรายเสริมให้คนภายในกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี มีเงินรายได้หมุนเวียนกว่า 1 แสนบาทต่อเดือน
นายสายัญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านเกาะอีเพลิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองเป็นผู้ใหญ่บ้านเมื่อประมาณปลายปี 2559 กลุ่มจักสานนี้เริ่มตอนปลายปี 2560 ด้วยมองว่าที่หมู่บ้านนั้นไม่มีอาชีพอะไรให้ชาวบ้านเลย จึงได้คิดริเริ่มหาอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้ชุมชน ประกอบกับในพื้นที่หมู่บ้านเรานั้นผู้สูงอายุที่มีภูมิปัญญาชาวบ้านด้านนี้อยู่แล้ว จึงเริ่มจากการสานเปลไม้ไผ่ก่อนอันดับแรก เพื่อดูว่ามีความต้องการ มีบุคคล หรือทรัพยากรในหมู่บ้านมาช่วยได้แค่ไหน
ตลอดจนทำการประชาสัมพันธ์เพื่อที่จะให้เกิดการขายได้ มีรายได้ขึ้นจริง เพราะหากทำแล้วขายไม่ได้กลุ่มเราจะเดินไม่ได้ จะอาศัยหน่วยงานอื่นหรือว่างบประมาณก็ค่อนข้างจะยาก ก็เลยต้องช่วยกันเดินแล้วก็ช่วยกันทำกันเอง มาอย่างต่อเนื่องประมาณ 4-5 ปี ซึ่งที่นี่จะเป็นในรูปแบบการทำเครื่องจักสานไม้ไผ่ และเริ่มมีการพัฒนาปรับตัวให้ทันยุคทันสมัย ใช้เทคโนโลยีเข้ามาสื่อสารและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่องการรับงานรับออเดอร์ซึ่งดูจากในอินเทอร์เน็ต แล้วนำมาปรับใช้ในกลุ่มให้เกิดรูปแบบใหม่ๆ ขึ้นมา
ผู้ใหญ่บ้านกล่าวอีกว่า ทุกวันนี้สมาชิกในกลุ่มจักสานและผู้สูงอายุเป็นหลัก ประมาณ 12 คน ส่วนที่เป็นบุคคลที่เป็นวัยรุ่นจะมีน้อย แต่ถือได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก ด้วยเป็นสิ่งที่เกิดจากภูมิปัญญาที่กลุ่มผู้สูงอายุถนัด ทำให้พวกเขามีความสุขและสนุกที่ได้ทำ ได้ออกกำลังกาย ได้ทำในสิ่งที่ตนเองชอบ มีเพื่อนคุย มีรายได้ อย่างน้อยก็พอเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าครองชีพ เพราะโดยหลักแล้วผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะไม่มีอะไรให้ทำกันและเริ่มออกห่างจากกลุ่มสังคม แต่พอมีกลุ่มนี้ขึ้นมาผู้สูงอายุก็ได้มาพูดคุยได้คลายเครียดมากพอสมควร อีกทั้งที่นี่ยังอยู่กันแบบครอบครัว มีทำอาหารกินกันในช่วงทำงาน เปรียบเสมือนที่นี่เป็นบ้านของทุกคน ส่วนเงินรายได้นั้นจะคิดจากหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วก็จะแจกจ่ายให้เป็นรายได้ส่วนบุคคล ซึ่งแต่ละออเดอร์ก็จะมีราคาที่ไม่เท่ากัน โดยในแต่ละเดือนสมาชิกจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าคนละ 6,000 บาท
ส่วนไม้ไผ่ที่ใช้นั้นจะเป็นไม้ไผ่พื้นบ้านที่ไปทำการขอซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่ มีทั้งที่จะขุดทิ้งบ้าง หรือขอแบ่งตัดมาบ้าง รวมไปถึงออกไปขอซื้อจากพื้นที่ใกล้เคียงต่างๆ เพราะไม้ไผ่ที่ใช้ต้องเป็นไม้ไผ่แก่และลำตรงสวย จึงจำเป็นต้องเลือกก่อนตัด แต่หลักๆ แล้วจะเน้นใช้ไม้ไผ่ในชุมชน เพราะจุดประสงค์หลักคือต้องการให้คนในชุมชนของเรามีรายได้ทั่วถึง จึงทำให้ตอนนี้ในพื้นที่เริ่มทำการปลูกไผ่เลี้ยงกันเพื่อไว้นำมาขายให้ในกลุ่ม
ส่วนรูปแบบที่ทำขายหลักๆ ก็คือ ซุ้มไม้ไผ่ แคร่นั่ง ชุดเก้าอี้ โต๊ะรับแขก ห้างร้านค้า กระท่อม เปลนอน ตะกร้า เป็นต้น รวมไปถึงออเดอร์ที่สั่งตามความต้องการของลูกค้าซึ่งตอนนี้มีออเดอร์ยาวไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนมากจะรับเป็นลูกค้าในจังหวัดก่อน ส่วนต่างจังหวัดยังติดขัดในเรื่องของระยะการขนส่งเนื่องจากไม่มีรถที่สามารถขนส่งให้ได้
ปัจจุบันลูกค้าจะเดินทางมารับสินค้ากันเอง เพราะจะได้มาดูงานสินค้าก่อนด้วยว่า พอใจหรือต้องการที่จะต่อเติมตรงจุดไหนด้วยหรือไม่ ส่วนราคานั้น ขึ้นอยู่กับขนาดและชนิด เช่น ห้างนอนเล่น กว้าง 1 เมตร 20 ยาว 2 เมตร มีราคาอยู่ที่ 3,000 บาท ร้านขายของ ขนาดใหญ่ขนาด 2 เมตรคูณ 2 เมตร ราคา 4,000 บาท ร้านขายของขนาดเล็ก กว้าง 80 ยาว 1 เมตร 50 จะอยู่ที่ราคา 1,600 บาท ซุ้ม 3 ที่นั่ง กว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร 50 ราคา 5,000 บาท เก้าอี้นั่งพัก ตัวละ 300 บาท