อ่างทอง - ศรัทธาและความเชื่อ ตำนานจระเข้เจ้าพ่อเจ้าแม่ แห่งคลองหนองรี แม่น้ำที่มีจระเข้อยู่ในถ้ำใต้ต้นสะตือใหญ่ เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน ปัจจุบันกระทบภัยแล้ง น้ำแห้งขอดคลอง เหลือเพียงจระเข้ในเรื่องเล่าและการขอเลขเด็ดนำไปเสี่ยงโชค
ศาลเจ้าแม่กุลา เจ้าพ่อวิไลลักษณ์ ตำนานจระเข้เจ้าพ่อเจ้าแม่ แห่งคลองหนองรี เชื่อว่าแม่น้ำที่มีจระเข้อยู่ในถ้ำใต้ต้นสะตือใหญ่ อายุกว่า 100 ปี ริมถนนหมู่ 4 ตำบลบ่อแร่ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ที่เป็นศาลไม้เก่าแก่ หลังคาสังกะสี ตั้งเสาไม้พื้นยกสูงจากพื้นดิน 1ทเมตร กว้าง 1.20 เมตร ยาว 2 เมตร มีเครื่องเซ่นไหว้จำนวนมากเต็มศาลอยู่บริเวณโคนต้นโพธิ์ใหญ่ อายุกว่า 100 ปี ที่ชาวบ้านหลายคนเรียกว่าต้นสะตือ อยู่ริมคลองหนองรีขนาดใหญ่กว้างกว่า 100 เมตร มีเรื่องเล่าขานในอดีตว่าเป็นวังที่อยู่อาศัยของจระเข้จำนวนมากลอยโผล่ออกมาให้ชาวบ้านเห็นอยู่เป็นประจำ
โดย นายโอภาส พ่วงดี อายุ 70 ปี ชาวบ้านกล่าวว่า ศาลเจ้าพ่อวิไลลักษณ์ เจ้าแม่กุลา ตั้งอยู่ที่บริเวณโคนต้นสะตือขนาดใหญ่ อายุกว่า 100 ปีแห่งนี้ ปัจจุบันนั้นกลายเป็นต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อยู่ริมคลองหนองรี เป็นที่สิงสถิตของจระเข้จำนวนมาก ในอดีตที่ผ่านมา มีชาวบ้านพบเห็นเป็นประจำและเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน ซึ่งจะมาทำการบนบานศาลกล่าวเป็นประจำ ซึ่งสมัยก่อนนั้นจะใช้การสัญจรไปมากันทางเรือ คลองหนองรีนั้นมีความกว้างกว่า 100 เมตร ยาวหลาย 10 กิโลเมตร
ผ่านหลายตำบลเชื่อมต่อกับแม่น้ำน้อย และมีน้ำไหลเชี่ยว เวลาเรือแล่นผ่านจะพบจระเข้โผล่ขึ้นให้เห็น ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า เป็นจระเข้เจ้าที่ เป็นเรื่องเล่าบอกต่อๆ กันมาว่า ด้านลางต้นสะตือใหญ่นั้นมีโพรงขนาดใหญ่คล้ายถ้ำ เป็นวังที่อยู่อาศัยของจระเข้ ส่วนผู้ที่เลี้ยงวัวควายนั้นหากจะให้สัตว์เลี้ยงลงน้ำข้ามคลองต้องยกมือไหว้บอกกล่าวถึงจะข้ามคลองได้ เนื่องจากสมัยก่อนนั้นไม่มีถนนและสะพานข้ามคลอง
ในปัจจุบันนี้ คลองหนองรี เกิดประสบภัยแล้งน้ำแห้งขอด ชาวบ้านเดินข้ามได้และลงไปหาหอยหาปลาได้อย่างสะดวก ไม่พบถ้ำหรือวังจระเข้ในตำนานเรื่องที่ได้เล่าขานกันมา แต่ก็ยังมีความเคารพนับถือศรัทธาต่อเจ้าแม่กุลา เจ้าพ่อวิไลลักษณ์ ตำนานวังจระเข้เจ้าที่ เมื่อผู้ที่ขับขี่รถผ่านบริเวณต้นโพธิ์ใหญ่ ต้องบีบแตรบอก พร้อมเดินทางมากราบไหว้ขอโชคลาภนำไปเสี่ยงดวงและเมื่อได้โชคลาภสมใจแล้วจะมีการนำเครื่องเซ่นมาถวาย รวมทั้งนำละครชาตรีมาทำการแก้บนกันเป็นประจำ
