ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สนพ.รุกให้ความรู้ระบบสมาร์ทกริด มั่นใจเพิ่มประสิทธิภาพไฟฟ้าของไทย โชว์แผนบริหารไฟฟ้า 20 ปีให้ประเทศมีไฟฟ้าเพียงพอ เพิ่มสัดส่วนระบบไฟฟ้าทดแทน ผู้ใช้ไฟฟ้ามีความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีใช้พลังงานในอนาคต
วันนี้ (7 ม.ค. 63) ที่ห้องประชุมชั้น 2 โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชาออคิด ดร.วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการกองนโยบายไฟฟ้า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. กระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาในหัวข้อ “สมาร์ทกริด (Smart Grid) ระบบโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อเมืองอนาคต” สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนผ.) ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จัดประชุมขึ้น มีประชาชนชาว จ.ขอนแก่นร่วมรับฟังกว่า 500 คน
ดร.วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการกองนโยบายไฟฟ้า สนพ. กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านพลังงานมีความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้พฤติกรรมการใช้พลังงานของประชาชนเปลี่ยนไป จากสถิติข้อมูลพบว่าประเทศไทยมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นทุกปี แต่จำนวนการซื้อไฟฟ้าจากหน่วยงานการไฟฟ้าฯ นั้นทรงตัว สะท้อนให้เห็นถึงกลุ่มผลิตไฟฟ้าเองนั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในรูปแบบของพลังงานทดแทน
นอกจากจะเป็นการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองแล้ว ยังมีการขายกระแสไฟฟ้าให้พื้นที่ใกล้เคียง หรือขายเข้าระบบของการไฟฟ้าอีกด้วย ขณะเดียวกัน ภาครัฐยังมีการรับซื้อไฟฟ้าจากกลุ่มพลังงานหมุนเวียน ที่เริ่มดำเนินการมาแล้ว ดังนั้นการสร้างโครงข่ายไฟฟ้าสมาร์ทกริดที่กระทรวงพลังงานดำเนินการจะเข้ามามีบทบาทสำคัญที่ลงลึกไปถึงประชาชนผู้ใช้ไฟ เพราะจะเป็นระบบที่ช่วยบริหารจัดการให้การใช้ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“โครงการสมาร์ทกริดเป็นระบบโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อเมืองอนาคต ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนจะกระจายสู่ต่างจังหวัด ซึ่งการประชุมวันนี้เป็นจังหวัดที่ 8 ที่ สนพ.ได้เน้นหนักในเรื่องของการสร้างความรู้และแนะแนวทางในภาคประชาชน โดยเฉพาะผู้ใช้ไฟที่จะเข้าสู่ระบบเทคโนโลยีการใช้ไฟในอนาคต ตามแผนพัฒนาระบบโครงข่ายสมาร์ทกริดของประเทศที่กระทรวงพลังงานกำหนดไว้ในแผนระยะยาว 20 ปี ซึ่งระบบสมาร์ทกริดได้ถูกบรรจุอยู่ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าฉบับใหม่ PDP2018 อีกด้วย”
ดร.วีรพัฒน์กล่าวต่ออีกว่า โครงข่ายสมาร์ทกริดจะช่วยยกระดับความสามารถของระบบไฟฟ้า ที่เราเรียกว่าเป็น Smart System จะช่วยยกระดับคุณภาพบริการที่มีต่อผู้ใช้ไฟฟ้า ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้ไฟฟ้านั้นมีความสะดวกสบายมากขึ้นจากเทคโนโลยีการใช้พลังงานในอนาคต ทั้งยกระดับโครงสร้างระบบไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่สามารถรองรับการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเข้าสู่ระบบไฟฟ้า ที่สอดรับกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก
ปัจจุบันพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกนั้นเริ่มมีการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองและส่งจำหน่ายให้ภาครัฐกันอย่างแพร่หลาย แต่ระบบสมาร์กริดนี้จะเป็นศูนย์กลางการดำเนินการในระบบพลังงานทดแทนที่จะจำหน่ายให้ภาครัฐ จนนำไปสู่การบริหารจัดการกระแสไฟฟ้าในภาพรวมที่เพียงพอต่อผู้ใช้กระแสไฟฟ้าทั่วทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตาม กฟผ.และ กฟภ.จะเป็นหน่วยงานสำคัญในการขับเคลื่อนแผนงานดังกล่าวร่วมกับ สนพ.ในการที่จะให้ความเห็นและเข้าถึงผู้ใช้ไฟ ที่จะเป็นการถ่ายทอดนโยบายภาครัฐ แผนงานและทิศทางการดำเนินงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่ประชาชนจะรับทราบได้อย่างชัดเจนอีกด้วย