นครสวรรค์/สุโขทัย - แล้งแรงไม่หยุด..เกษตรกรเดือดร้อนกันหลายพื้นที่ต้องดิ้นรนหาแหล่งน้ำฝ่าวิกฤตกันเอง พบชาวนานครสวรรค์ต้องจ้างเจาะบาดาลกลางอ่างหาน้ำเลี้ยงต้นข้าว ขณะที่ชาวศรีสัชนาลัยรวมตัวกั้นน้ำยมเก็บน้ำไว้กินไว้ใช้
ภัยแล้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง กระทบทั้งภาคการเกษตร และการอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะเกษตรกรหลายพื้นที่ต้องดิ้นรนหาแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตรทุกวิถีทาง เช่น นายสมพร ดาวศุกร์ ชาวนา ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ ต้องลงทุนขุดเจาะบ่อบาดาลในอ่างเก็บน้ำหลวงพ่อจ้อย เพื่อสูบน้ำขึ้นไปเลี้ยงนาข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวง หลังจากอ่างเก็บน้ำแห้งขอดจนไม่สามารถสูบน้ำในอ่างใส่นาข้าวได้ตามปกติ
นายสมพรบอกว่า ภัยแล้งในปีนี้รุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมามาก น้ำฝนมีน้อยจนทำให้น้ำในอ่าง แทบไม่มีให้ใช้สำหรับทำการเกษตร ซึ่งเมื่อสองเดือนที่ผ่านมามีชาวนาหลายหมู่บ้านรอบอ่างสูบน้ำเข้าพื้นที่นาไปจนหมด ทำให้ในขณะนี้น้ำในอ่างเก็บน้ำแห้งขอดไม่เหลือน้ำติดก้นอ่างแล้ว ตนต้องแก้ปัญหาด้วยการจ้างคนงานมาเจาะบ่อบาดาลในอ่างเก็บน้ำ เพราะคิดว่าน่าจะมีน้ำใต้ดินหลงเหลืออยู่บ้าง เพื่อนำน้ำที่ได้มาหล่อเลี้ยงนาข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวง
“แม้ว่าจะลงทุนไปแล้วหลายหมื่นบาทก็ต้องยอมทำ เพราะไม่อยากให้ข้าวที่ปลูกไว้ยืนต้นตายเพราะขาดน้ำ แต่ในขณะเดียวกันยังมีต้นข้าวบางส่วนที่ส่งน้ำไปไม่ถึง จึงทำให้มีต้นข้าวบางส่วนยืนต้นตายบ้างแล้ว”
ด้านนายไวพจน์ ช่างชัย ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองอ้อ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านและประชาชนในพื้นที่หมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 9 จำนวนกว่า 150 คน ได้ช่วยกันขนกระสอบทรายเร่งทำฝายกั้นน้ำในแม่น้ำยม บริเวณหลังท่าทรายศิริไทย หมู่ 3 ต.หนองอ้อ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย หลังพบระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้บางช่วงแห้งขอดจนสามารถเดินข้ามแม่น้ำได้
นางสุมาลี ดวงจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.หนองอ้อ กล่าวว่า หลังจากแม่น้ำยมเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว ก็เลยมีการประชุมหารือร่วมกับชาวบ้านหมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 9 ซึ่งเป็นพื้นที่ต้องใช้น้ำร่วมกัน มาช่วยกันสร้างฝายเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ปลูกผักสวนครัว ทำนา และใช้ทำน้ำประปา
“ปีนี้น้ำลดเร็วกว่าทุกปี ก่อนหน้านี้ก็มีหลายหมู่บ้านที่ต้องอาศัยแม่น้ำยม ต่างทำฝายกั้นน้ำในพื้นที่ตัวเองกันแล้วหลายจุด ชาวบ้านที่นี่จึงกลัวว่าจะไม่มีน้ำใช้ก็เลยมาช่วยกันสร้างฝาย หวังว่าจะมีน้ำกินใช้ตลอดช่วงหน้าแล้งที่จะถึงนี้”