อุบลราชธานี-สองนักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดังใน จ.อุบลฯ ถูกมิจฉาชีพหลอกขายทองทางเฟซบุ๊ก แค่บาทละ 1,799 อ้างเป็นโปรโมชั่นร้านทองชื่อดังคืนกำไรรับปีใหม่ สั่งไป 4 เส้น สูญเงินกว่า 7 พันแต่ไม่ได้รับของ ด้านร้านทองปัดเอี่ยวแต่พร้อมช่วยเหลือด้านคดี
เมื่อวันที่ 4 ม.ค.นายพีรวิชญ์ เฉลิมรัตน์ อายุ 21 ปี นางสาวกาญจนา กองสินแก้ว อายุ 21 ปี สองนักศึกษามหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าช่วงปลายเดือนธันวาคม 62 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Bunkaen Weerawat ได้โพสต์ขายทองรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาท ในราคา 1,799 บาท จึงได้ทำการติดต่อสอบถามพร้อมทั้งสั่งซื้อจำนวน 4 เส้นเป็นเงินรวมเป็นเงิน 7,400 บาท โดยมีกำหนดนัดส่งของให้กันในวันที่ 30 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา
แต่เมื่อถึงเวลานัดกลับไม่ยอมส่งมอบทองมาให้ เมื่อติดตามทวงถามหลายครั้งก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด
นายพีรวิชญ์ เล่าอีกว่า หลังจากที่ตนเองและเพื่อนรอมานานจนแน่ใจว่ามีความผิดปกติ จึงได้ติดต่อไปยังนายรุ่งโรจน์ กนกวรรณากร อายุ 40 ปี เจ้าของร้านทองเยาวราชวงเวียนบิ๊กซีอุบลราชธานี ซึ่งเป็นร้านที่เฟซบุ๊กข้างต้นอ้างตัวเป็นพนักงานของทางร้านมาจัดโปรโมชั่นดังกล่าว
แต่ก็ได้รับคำตอบว่าทางร้านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือจัดโปรโมชั่นแต่อย่างใด ส่วนบุคคลในรูปก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน ที่ผ่านมาก็มาผู้เสียหายรายอื่นๆ ติดต่อมาสอบถามถึงการสั่งซื้อทองคำราคาถูกที่คนร้ายอ้างเป็นการจัดโปรโมชั่นเข้ามาเช่นกัน
นายพีรวิชญ์ ระบุถึงสาเหตุที่ตนและเพื่อนหลงเชื่อ เพราะเดิมทีก็เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊กอยู่แล้ว และเห็นมิจฉาชีพรายนี้ไลฟ์สดแจกเงินแจกทองอยู่เป็นประจำประกอบกับเป็นคนอุบลเหมือนกัน จึงได้หลงกลว่าเป็นการจัดโปรโมชั่นตามที่คนร้ายกล่าวจริง
ด้านนายรุ่งโรจน์ กนกวรรณากร อายุ 40 ปี เจ้าของร้านทองเยาวราชวงเวียนบิ๊กซีอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้เสียหายถูกแอบอ้างกล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายหลายคนผ่านทางเพจของร้านสอบถามว่า รู้จักมิจฉาชีพรายนี้หรือไม่ มีการจัดโปรโมชั่นปีใหม่จริงหรือไม่ ซึ่งตนก็ได้บอกไปว่าไม่รู้จักและไม่มีการจัดโปรโมชั่นแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบพบว่า มิจฉาชีพรายนี้ ได้เอาภาพทองคำรูปพรรณของทางร้านที่อยู่ในเพจไปแอบอ้างจัดโปรโมชั่นต่างๆนานาจนมีผู้เสียหายหลงเชื่อจำนวนมากและติดต่อมาสอบถามเป็นระยะ แต่ที่ผ่านมายังไม่สามารถดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้ได้ เพราะยอดเงินที่สูญเสียจำนวนไม่มาก
อาทิ ทองคำ 1 สลึงราคาขายจริง 6,000 บาท คนร้ายอ้างจัดโปรโมชั่นในราคา 299 บาท เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ แม้จะไม่ได้รับของ แต่ก็ไม่มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะผู้เสียหายคิดว่าเป็นเงินจำนวนไม่มาก ไม่คุ้มต่อการเสียเวลาไปแจ้งความ
ตนจึงอยากจะเชิญชวนผู้เสียหายที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้หลอกลวงมารวมตัว แจ้งความดำเนินคดีเอาคนไม่ดีกลับคืนคุก ซึ่งตนยินดีให้การสนับสนุนในการดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้อย่างเต็มที่
ด้านการดำเนินคดี ล่าสุด พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้สั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานไว้แล้วหากพบว่ามีมูลเข้าข้อกฏหมายความผิดใดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทันทีเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่นอีกต่อไป