ประจวบคีรีขันธ์ - วอนเร่งเคลื่อนย้าย”พลายบุญมี”ช้างป่าที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เกเร ทำลายทรัพย์สินชาวบ้าน และพืชสวนเกษตรออกไป หลังจากมีการเสนอไปแต่เรื่องเงียบกว่า 3 เดือนแล้ว ล่าสุดกลางดึกที่ผ่านมาบุกพังร้านขายยาริมถนนทางเข้าหมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่
วันนี้( 31 ธ.ค.)นายธนนท์ พรรพีพาส นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วย นางสุนันทา พิมพ์ไทย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ และทหารหน่วยเฉพาะกิจ จงอางศึก กำนันตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ เข้าตรวจสอบสภาพร้านขายยาละอูฟาร์มาซี ตั้งอยู่ริมถนนทางเข้าหมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ เลขที่ 130 หมู่ 1 บ้านเฉลิมเกียรติพัฒนา ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากได้รับแจ้งจาก นางสาวพรรณี ศรีชัยนาท อายุ 38 ปี ว่าเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมามีช้างป่าละอู ที่อาศัยหากินอยู่ในพื้นที่ เข้ามาพังกระจกที่ร้านพังลงมาทั้งแถบ มียาบางส่วนได้รับความเสียหาย
โดยนายอำเภอหัวหินและและเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่า กระจกด้านหน้าของร้านขายยาถูกแรงดันของช้าง จนหลุดออกจากขอบและเอนเข้าไปในร้านแต่โชคดีที่กระจกไม่แตก มียาบางส่วนได้รับความเสียหายโดยทาง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ได้ทำการถ่ายรูปและบักทึกข้อมูลความเสียหายเอาไว้ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาต่อไป
นายอำเภอหัวหิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ กำนันตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ พร้อมชาวบ้านห้วยสัตว์ใหญ่ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาช้างป่าที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เกเรที่เข้ามาทำลายทรัพย์สิน และพืชสวนทางการเกษตร อยู่เป็นประจำส่วนใหญ่จะเป็น ช้างป่าที่ชาวบ้านเรียกว่า”พลายบุญมี” โดยก่อนหน้านี้ทางคณะกรรมการแก้ปัญหาช้างป่าอำเภอหัวหิน และชาวบ้านได้ทำเรื่องเสนอของให้ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ช่วยพิจารณาเคลื่อนย้ายช้างป่า พลายบุญมี ออกไปเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งมีความวิตกและหาดกลัว จนร้านค้า และบ้านบางหลัง ไม่กล้านอนอยู่ที่บ้านเพราะกลัวช้างป่าจะบุกเข้ามาพัง และความไม่ปลอดภัยต่อชีวิต
โดยที่ผ่านมานายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แจ้งว่าได้ทำเรื่องเสนอไปยังอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ไปแล้วแต่วันนี้ทั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาช้างและชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าเวลาผ่านไปเกือบ 4 เดือนแล้วแต่ยังไม่มีการดำเนินการอะไร ดังนั้นทุกฝ่าย จึงอยากเรียกร้องให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เร่งดำเนินการเคลื่อนย้าย พลายบุญมี ออกไปจากพื้นที่
นางสาวพรรณี ศรีชัยนาท เจ้าของละอูฟาร์มาซี กล่าวว่ายอมรับว่ากลัวปัญหาช้างป่า หลังทราบว่าชาวบ้านก็ได้รับความเดือดร้อนมานาน ซึ่งครั้งนี้มาเกิดขึ้นกับตนเอง ก็รู้สึกกลัวที่ผ่านมากลางวันขายยาเสร็จแล้วก็จะปิดร้านกลับไปพักที่บ้านอีกหลัง เนื่องจากตนเองมีลูกเล็กและกลัวช้างป่าจะเข้ามาพังเหมือนบ้านและร้านค้าชาวบ้านรายอื่นๆที่เกิดขึ้นจึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเคลื่อนย้ายช้างป่าที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวเกเรชอบทำลายทรัพย์สินออกไป
อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านยา บอกอีกว่าตอนนี้ต้องใช้ประตูเหล็กปิดเอาไว้ก่อน เพื่อรอการซ่อมแซมซึ่งคงต้องหลังปีใหม่ไปแล้ว เพราะเป็นห่วงว่าหากพังลงมาอีกก็จะได้รับความเสียหายหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะเป็นโครงกระจกขนาดใหญ่ทั้งแผ่น ในขณะที่เพื่อนบ้านข้างเคียงหลายรายที่ทราบข่าวที่เคยโดนช้างป่าบุกพังมาแล้ว ต่างเดินทางมาสอบถามและให้กำลังใจ ซึ่งทุกคนพูดเสียงเดียวกันว่า ควรต้องนำช้างป่าตัวดังกล่าวออกไป
ด้านป้าสุภา แตงทอง อายุ 57 ปี ชาวบ้านที่อยู่ติดกันกล่าวว่า ป้าโดนมาหลายครั้งแล้วที่ร้านขายกล้วยทอด มากว่า 10 ปีแล้ว ตอนนี้ในบ้านบางส่วนเสียหายจากช้างป่า พลายบุญมี ก็ยังไม่ได้ซ่อมก็มีบางส่วนได้รับการเยียวยาจาก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ไปแล้ว ถามว่าวันนี้บ้านของเราอาชีพของเราก็ต้องขายกล้วยทอดเลี้ยงครอบครัว จะเอากล้วยวัตถุดิบที่ใช้ทำไปเก็บไว้ที่ไหนก็ต้องเก็บไว้ในบ้านของเราถูกต้องหรือไม่
วันนี้เวลาช้างเข้ามา ไม่ไหวก็ต้องวิ่งหนีเอง เมื่อคืนก็มาช่วยไล่ช้างป่าที่เข้ามาพังร้านยาออกไป และโทรไปบอกเจ้าของร้ายยา อยากให้รีบๆย้ายออกไปเถอะ “พลายบุญมี” ทำยังไงก็ได้อย่าให้ช้างเข้าบ้าน เพราะเข้าไปแล้วกินหมดทุกอย่าง ก็ได้รับความเดือดร้อน บางครั้งไล่มันก็ไม่ออกจุดลูกโป้งก็แล้วบางครั้งก็ไม่ไปต้องกินหมดถึงจะไป “มันไม่ออกป้าก็ต้องเผ่นออกหลังบ้าน”
เบื้องต้น นางสุนันทา พิมพ์ไทย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ กล่าวว่าสำหรับความเสียหายครั้งนี้ประเมินแล้วประมาณ 7,000-8,000 บาท โดยจะประสานทางทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก และเจ้าหน้าที่ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ คงต้องหาวิธีใช้เชือกที่มีความแข็งแรงยึดตัวโครงกระจกทั้งหมดเอาไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย และไม่ให้เสียหายมากกว่านี้ โดยการเยียวยาต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเยียวยาชุดเล็กขององค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ว่าจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างไร เบื้องต้นแต่ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแจ้งให้ทราบว่าจะช่วยเงิน 2,500 บาทให้กับเจ้าของร้านยาละอูฟาร์มาซี
ที่ผ่านมามีการประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาช้างป่าอำเภอหัวหินทุกเดือน มีการพูดคุยกันมาทุกเดือนถึงปัญหา พลายบุญมี แต่ละปีก็บอกว่าจะย้ายช้างป่าออกไป นี่ก็จะปี2563 อีกแล้วฝากสื่อมวลชนช่วยกระตุ้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบหน่อยเถอะเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ขณะนึ้ทราบว่าทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานส่งเรื่องไปแล้วไปอยู่ที่ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
เรื่องนี้เป็นอำนาจของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช สั่งคำเดียวทุกอย่างคงขับเคลื่อนได้ หรือจะรอให้เกิดการสูญเสียถึงชีวิต ก่อนหรือยังไง
