ศรีสะเกษ-ญาติสาวถูกฆ่าโหดใช้ค้อนทุบหน้าเละที่เพชรบูรณ์ เตรียมบ้านจัดงานศพ รอพ่อผู้ตายนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ด้านผู้ใหญ่บ้านโคกเพ็กเผยเห็นนิสัยสามีผู้ตายแล้วไม่ผ่าน ย้ำเป็นคดีที่โหดเหี้ยม จี้ลงโทษประหารชีวิตคนร้าย
วันนี้ (31ธ.ค.62) ที่บ้านเลขที่ 217 หมู่ 9 บ้านโคกเพ็ก ต.โนนเพ็ก อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนายสมพาน ขอบเขตต์ อายุ 44 ปี พี่ชายน.ส.ปิ่นชา ขอบเขตต์ อายุ 42 ปี ซึ่งถูกฆ่าอย่างเหี้ยมโหดที่ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อไปถึงพบว่าญาติพี่น้องกำลังช่วยกันทำความสะอาดบ้าน และจัดเตรียมสถานที่เพื่อจัดตั้งศพ น.ส.ปิ่นชา โดยขณะนี้พ่อและลูกชายของน.ส.ปิ่นชา ได้เดินทางไปที่จ.เพชรบูรณ์ เพื่อไปพบกับพนักงานสอบสวน ติดต่อขอรับศพน.ส.ปิ่นชากลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด
ขณะที่บรรดาญาติพี่น้องต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมทารุณมาก เพราะผู้ตายโดนกระหน่ำตีที่บริเวณใบหน้าจนเละแทบจำไม่ได้
นายสมพาน ขอบเขตต์ อายุ 44 ปี พี่ชายน.ส.ปิ่นชา ผู้เสียชีวิต กล่าวว่าปกติแล้วน.ส.ปิ่นชา น้องสาวของตนเป็นคนที่ชอบพูดอะไรตรงๆ คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น เคยแต่งงานมาแล้วมีลูกชาย 1 คน ต่อมาได้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ และได้ไปพบรักกับสามีคนปัจจุบัน จากนั้นได้พากันกลับมาบ้านได้ประมาณ 2 ปี พากันไปทำงานรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งระหว่างที่น้องสาวกับสามีอยู่กินกันที่บ้าน ก็มีปากเสียงกันบ่อยครั้งด้วยเรื่องภายในครอบครัว แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไรบ้าง
ส่วนสาเหตุของการฆาตกรรมโหดครั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่คาดว่าอาจจะเป็นฝีมือของคนร้ายที่เป็นคนใกล้ตัวก็ได้ ก่อนเกิดเหตุถูกฆ่าเสียชีวิต น.ส.ปิ่นชาได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าจะกลับมาบ้านช่วงปีใหม่ และจะนำตนไปทำงานที่จ.เพชรบูรณ์ด้วย ขอให้ทำความสะอาดบ้านเอาไว้ ตนไม่คิดว่าจะเป็นลางร้าย ต้องมาเตรียมบ้านเพื่อจัดงานศพน.ส.ปิ่นชา น้องสาวสุดที่รักของตน
ด้านนายชัยศิลป์ พิมสอน ผู้ใหญ่บ้านโคกเพ็ก หมู่ 9 กล่าวว่าตนอยู่บ้านติดกันกับครอบครัวผู้ตาย ช่วงที่น.ส.ปิ่นชากับสามีมาอยู่ที่บ้าน เห็นสามีน.ส.ปิ่นชาแล้ว แม้ว่านิสัยจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย แต่มีสิ่งที่ผิดสังเกต ซึ่งตนคิดว่าไม่ผ่าน อีกทั้งมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้งมากตนได้ยินตลอด ช่วงที่มาพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายนั้นตนเชื่อมั่นฝีมือของตำรวจเพชรบูรณ์ ว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ในเร็วๆนี้ คดีนี้โหดเหี้ยมมาก ควรลงโทษคนร้ายตามที่กฎหมายกำหนดไว้สูงสุด