พิษณุโลก – คนพรหมพิรามกว่า 200 คน เดือดร้อน ที่อยู่-ที่ทำกินถูกประกาศเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ ร้องหลายแห่งก็ช่วยไม่ได้ ล่าสุดประสาน จนท.สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สวมเสื้อ พปชร.รับเรื่องประสาน มท.เพิกถอน นสล.
วันนี้(24 ธ.ค.)ชาว อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รวมตัวกันกว่า 200 คน ที่หน้าปั้มน้ำมันชุมชนประชารัฐ บ้านแหลมลาด หมู่ 6 ต.มะตูม จ.พิษณุโลก เนื่องจากเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินและที่อาศัยอยู่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ไม่สามารถออกโฉนดได้มานานตั้งแต่ก่อน พ.ศ.2500
ต่อมาผู้ใหญ่บ้านและกำนันได้ประสานให้ “จ่าเจี๊ยบ”หรือ จ.ส.อ.พัฒณปกรณ์ ดอนตุ้มไพร ถือบัตร จนท.ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มารับหนังสือข้อร้องเรียน เนื่องจากเห็นว่าเป็นคนพรหมพิราม และได้รับตำแหน่งในรัฐบาลสังกัดพรรคพลังประชารัฐ น่าจะมีช่องหาช่วยเหลือปัญหาที่ค้างคามานาน
นายสำเนียง สมงาม อายุ 33 ปี หมู่ 1 ท่าช้าง บ้านท่ามะเฟือง อ.พรหมพิราม พิษณุโลก บอกว่าตนอยู่อาศัยและครอบครองที่ดิน บริเวณหนองลาดหมู่ 6 ต.มะตูม เนื้อที่กว่า 3 ไร่เศษมานาน แต่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดได้ เมื่อปี 2550 รัฐก็ออกเพียงหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินของรัฐเป็นการชั่วคราวตามนโยบายแก้ไขความยากจน กระทั่งเวลาผ่านมาหลายปี รัฐบาลหลายสมัย ก็ไม่สามารถดำเนินการออกโฉนดได้ จึงขอร้อง”รัฐบาลบิ๊กตู่”ช่วยดำเนินการให้ด้วย
นายนุกูล โหน่งจั่น อยู่บ้านเลขที่ 47/1 หมู่ 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม บอกว่าตนก็ได้รับหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐเป็นการชั่วคราว แต่ยังไม่มีโฉนดครอบครอง แม้ว่าจะทำนาอยู่บนที่ดิน 7 ไร่เศษมานานก็ไม่สิทธิใดๆ เหมือนคนอื่นเขา จึงฝากไปยังรัฐบาล และจ่าเจี๊ยบ คนของพรรคพลังประชารัฐช่วยเร่งดำเนินการด้วย
ด้าน จ.ส.อ.พัฒณปกรณ์ ดอนตุ้มไพร(จ่าเจี๊ยบ) ที่มีตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คน ต.มะตูม และตำบลข้างเคียงได้รับความเดือดร้อนเรื่องที่ทำกิน-ที่อยู่อาศัยมานาน ร้องเรียนภาครัฐมาบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับแก้ไขได้ เพราะภาครัฐดูแค่ว่าระวางเป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ก็จบและปล่อยผ่าน
โดยที่ไม่ได้ดูข้อเท็จจริงของชาวบ้านว่าเขาอยู่มานาน เคยเสียภาษีดอกหญ้า ภบท.5 มาตั้งแต่ 2483 ซึ่งทราบว่าเมื่อปี 2515 ภาครัฐเตรียมจะออกโฉนด ก็นายทุนกว้านซื้อที่ดิน ซึ่งชาวบ้านไม่ขายแต่กลับถูกหลอกจับมือเซ็นต์ชื่อ ลักษณะเป็นการมอบให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์แทน สุดท้ายในปี 2522 รัฐก็ออกเป็นที่สาธารณประโยชน์ ส่งผลให้ชาวบ้าน 210 ครอบครัวที่มีที่ดินก็มีเพียงแปลงเล็กๆ 5-20 ไร่ต่อราย บ้านที่อยู่ก็มีเป็นเพียงบ้านเลขที่ชั่วคราว เดือดร้อนไปตามๆกันทำอะไรไม่ได้ ภาครัฐเองก็ไม่ชี้แจงให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริง
วิธีแก้ไข นับจากนี้ คือ จะต้องยกเลิก นสล.หรือหนังสือสำคัญที่หลวง โดยประสานผ่านไปยัง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยและนายกรัฐมนตรีเพื่อดำเนินแก้ไขต่อไป