ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ศรีนวล” ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่ เปิดใจหลัง “อนาคตใหม่” มีมติขับออกจากพรรค ขอบคุณที่ให้อิสระและทำงานร่วมกันมา แม้นับตั้งแต่โหวตสวน “ธนาธร” ไม่เคยพูดด้วยอีกเลยและไม่รับไหว้ ยืนยันทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ยอมรับเตรียมเข้าพรรคภูมิใจไทย เหตุแนวทางการทำงานสอดคล้องกัน เผยชาวบ้านในพื้นที่กว่า 80% เข้าใจและให้กำลังใจ
วันนี้ (17 ธ.ค. 62) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นางศรีนวล บุญลือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยกรณีพรรคอนาคตใหม่มีมติขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคว่า ไม่ได้รู้สึกเสียใจ และรู้สึกขอบคุณทางพรรคที่ให้โอกาสในการทำงานร่วมกันตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา จนกระทั่งให้อิสระในครั้งนี้ ยืนยันว่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาได้พยายามทำงานในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างดีที่สุด โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก ส่วนการที่ตัวเองโหวตสวนมติพรรค (กรณี พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพล) จนเป็นที่มาของความไม่พอใจของทางพรรคนั้น ยืนยันว่าต้องทำเช่นนั้น เพราะเทิดทูนและต้องการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะคนไทย จึงต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าอาจจะไม่ถูกใจใครบางคน
ทั้งนี้ หลังจากที่มีข่าวว่าตัวถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่แล้ว ยอมรับว่ามีหลายพรรคการเมืองที่ติดต่อทาบทามให้เข้าร่วม รวมทั้งพรรคพลังประชารัฐ และพรรคอื่นๆ แต่ปฏิเสธไป อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเรื่องต้นค่อนข้างจะเป็นที่แน่นอนว่าตัวเองจะไปเข้าร่วมพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นหัวหน้าพรรค เพราะแนวทางการทำงานน่าจะสอดคล้องกับความถนัดของตัวเองที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขมาก่อน อีกทั้งกระทรวงต่างๆ ที่ทางพรรคภูมิใจไทยรับผิดชอบดูแลอยู่ทั้งกระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงคมนาคม หรือกระทรวงมหาดไทย น่าจะเป็นผลดีต่อการทำงานของตัวเองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อ พัฒนาและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เขต 8 เชียงใหม่
ขณะเดียวกัน นางศรีนวลบอกว่า อยากฝากขอบคุณพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ว่ายังคงเคารพรัก และเป็นกำลังใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติอยู่เสมอ แม้ว่านับตั้งแต่ที่ตัวเองโหวตสวนมติพรรคแล้วจะไม่เคยได้พูดคุยกับนายธนาธรอีกเลย แม้กระทั่งเมื่อพบหน้ากัน เมื่อตัวเองยกมือไหว้สวัสดีทักทาย นายธนาธรก็ไม่แม้แต่จะรับไหว้หรือมองหน้า ส่วนนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ก็ทำเพียงยกนิ้วโป้งให้ ซึ่งน่าจะแสดงออกถึงความไม่พอใจมากกว่าที่จะชื่นชม สำหรับกระแสของประชาชนในพื้นที่ที่มีต่อตัวเองหลังจากที่จะถูกขับออกจากพรรคอนาคตใหม่นั้น เบื้องต้นพบว่าส่วนใหญ่กว่า 80% เข้าใจและยังให้กำลังใจดี อยากบอกว่าประชาชนอย่าไปหลงเชื่อตามกระแสโซเชียลมีเดียที่พยายามปลุกปั่นใส่ร้ายตัวเองให้มากนัก