บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.ประโคนชัย บุรีรัมย์ รวบเยาวชนหญิงวัยเพียง 15 ปีรับจ้างขนยาบ้าจากเอเยนต์ชาวกัมพูชาครั้งละ 1- 2 หมื่นเม็ด ใช้วิธีซุกในกางเกงรัดหน้าท้องหลบเลี่ยงการตรวจจับ ได้ค่าจ้างครั้งละ 3-5 หมื่น อ้างเลิกรากับสามีหาเงินเลี้ยงลูกน้อยวัย 4 เดือน ตร.เตรียมขยายผลรวบยกแก๊ง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (16 ธ.ค.) พ.ต.อ.เจตน์สฤษฎิ์ แพ่งศรีสาร ผู้กำกับการ (ผกก.) สถานีตำรวจภูธร (สภ.) ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.ท.นิวัฒน์ อาทวัง รองผู้กำกับการ สภ.ประโคนชัย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และฝ่ายปกครองอำเภอประโคนชัย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่บริเวณ สภ.ประโคนชัย
ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดภูธร จ.บุรีรัมย์ได้สนธิกำลังกับตำรวจชุดสืบ สภ.ประโคนชัย และฝ่ายปกครองอำเภอ ได้ทำการจับกุม น.ส.เอ็ม (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ได้ที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.ประโคนชัย ขณะลักลอบขนยาบ้ามาส่งให้เครือข่าย โดยใช้วิธีการซุกซ่อนแบบแนบเนียนด้วยการนำยาเสพติดพันด้วยเทปกาวแพกในลักษณะแบนแล้วยัดไว้ในกางเกงรัดหน้าท้องผู้หญิงเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจค้นพบยาบ้าซุกในกางเกงรัดหน้าท้องรวมจำนวน 9,203 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 101 กรัม
จากการสอบสวน น.ส.เอ็ม ผู้ต้องหา ให้การว่า ได้รับการติดต่อจาก นายทิด ชาวกัมพูชา ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ที่ใช้ชื่อว่า “ลูกรัก” ให้นำยาบ้าและยาไอซ์ไปส่งให้เครือข่ายในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยจะให้ค่าจ้างครั้งละ 30,000-50,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาเคยมาส่งยาบ้าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์แล้ว 4 ครั้ง ครั้งละ 10,000-20,000 เม็ด โดยการนั่งรถโดยสารมาลงตามสถานีขนส่ง แล้วจะมีการนัดรับส่งมอบยากันในห้องน้ำ หรือตามจุดที่มีการนัดหมาย ทั้งนี้ น.ส.เอ็ม ผู้ต้องหายังอ้างด้วยว่าสาเหตุที่รับจ้างขนยาบ้าเนื่องจากเลิกรากับสามี จึงต้องหาเงินเลี้ยงลูกน้อยที่เพิ่งคลอดได้เพียง 4 เดือน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม โดยเฉพาะการตกลงซื้อขายยาบ้าแต่ละครั้งจะให้โอนเงินผ่านบัญชีของ น.ส.นิสา ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.เอ็ม จะต้องทำการสืบสวนสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับขบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่
หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว น.ส.เอ็ม ผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้าและไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย”