เชียงราย - พุทธศาสนิกชนชาวเชียงรายเตรียมข้าวสารอาหารเพื่อร่วมตักบาตรคืน “เป็งปุ๊ด” โดยพระสงฆ์จะเริ่มบิณฑบาตที่วัดมิ่งเมืองและเดินไปตามถนนในตัวเมืองเชียงราย คาดแม้อากาศจะหนาวเย็นแค่ไหนก็จะมีผู้มาร่วมพิธีอย่างคับคั่งเหมือนทุกครั้ง
วันนี้ (10 ธ.ค.) พระครูโสภณ ศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดมิ่งเมือง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เป็นประธานสงฆ์ในการประกอบพิธีอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นจากลำน้ำกก (เชิงสะพานแม่ฟ้าหลวง) อ.เมืองเชียงราย เพื่อนำประดิษฐานบนรถบุษบกแล้วนำไปประดิษฐาน ณ วัดมิ่งเมือง โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย นายสมศักดิ์ เวียงโอสถ ประธานสภาเทศบาลนครเชียงราย และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงราย นำพุทธศาสนิกชนร่วมในพิธี
หลังจากอัญเชิญพระอุปคุตไปประดิษฐานที่วัดมิ่งเมืองแล้ว ทางคณะสงฆ์ จ.เชียงราย ได้เตรียมออกรับบิณฑบาตโดยพระภิกษุและสามเณรไปตามถนนในเขตเทศบาลนครเชียงรายตั้งแต่เวลาหลังเที่ยงคืนหรือ 00.01 น. ของวันที่ 11 ธ.ค.เป็นต้นไป ตามประเพณีการตักบาตรทุกคืนวันพุธที่ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ
เนื่องจากผู้นับถือศาสนาพุทธในภาคเหนือหรือชาวล้านนามีความเชื่อว่าพระอุปคุตเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์ ปัจจุบันจำศีลอยู่ที่ใต้สะดือทะเลและจะออกมาแปลงกายเป็นสามเณรน้อยรับบิณฑบาตจากญาติโยมทุกคืนวันพุธที่ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำดังกล่าวหรือเรียกเป็นภาษาภาคเหนือว่า "เป็งปุ๊ด" ซึ่งหากผู้ใดได้ใส่บาตรแล้วก็จะได้รับโชคลาภหรือได้สิ่งสมปรารถนา รวมทั้งยังเชื่อกันว่าจะได้อานิสงส์มากและมีความเป็นสิริมงคลด้วย ทั้งนี้ ในแต่ละปีอาจจะมีคืนวันเป็งปุ๊ดแค่หนเดียวหรือ 2 หน หรือบางปีไม่มีเลยก็ได้
สำหรับปีนี้เคยมีมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อคืนวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมาและในครั้งนี้ดังกล่าว โดยการจัดบิณฑบาตคืนวันเป็งปุ๊ดจะกำหนดเริ่มขบวนออกจากวัดมิ่งเมืองผ่านสี่แยกสะพานดำไปตามถนนบรรพปราการ มุ่งสู่หอนาฬิกาเชียงราย เมื่อถึงบริเวณสี่แยกประตูสลีก็จะเลี้ยวกลับไปเส้นทางเดิมเพื่อไปสิ้นสุดที่วัดมิ่งเมืองเช่นเดิม
กระนั้น ในครั้งนี้เป็นช่วงฤดูหนาวที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นโดยเฉพาะช่วงกลางคืนจะมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยไม่เกิน 10 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่านั้น แต่พบว่าพุทธศาสนิกชนยังคงเตรียมข้าวสารอาหารแห้ง ยารักษาโรค ฯลฯ เพื่อจะพากันออกไปตักบาตรตอนเที่ยงคืนกันอย่างคึกคัก ซึ่งแต่ละครั้งที่ผ่านมาจะมีคนออกไปร่วมพิธีหลายพันคนจนเต็มท้องถนน