ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-แตกตื่น!หมุดสะท้อนแสงขาวแดงถูกฝังบนถนนนิมมานฯ เชียงใหม่ ลือสนั่นใช้ตรวจจับรถจอดจุดห้าม ส่งสัญญาณให้ ตร.จราจรมาล็อคล้อเสียค่าปรับทันที ขณะที่ จนท.ยันยังไม่มีการใช้งาน ชี้เป็นสระบบช่วยหาจุดจอดและแก้ปัญหาจราจร
จากกรณีที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียในจังหวัดเชียงใหม่ต่างแสดงความคิดเห็นและเกิดกระแสวิพากษวิจารณ์อย่างกว้างขวางจากการที่พบว่ามีการนำหมุดสะท้อนแสงสีขาวแดงไปฝังลงพื้นริมถนนนิมมานเหมินทร์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นย่านยอดนิยมของนักท่องเที่ยวและมีปัญหาการจราจรคับคั่งติดขัดมากที่สุดแห่งหนึ่ง ทั้งนี้มีการระบุว่าหมุดดังกล่าวนั้น เป็นเซ็นเซอร์ที่ถูกนำมาติดตั้งเพื่อตรวจจับรถที่นำไปจอดบนถนนตรงจุดที่ห้ามจอดหรือขาวแดง ซึ่งหากมีการนำรถไปจอดเซ็นเซอร์จะทำการส่งสัญญาณไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่อยู่ใกล้ให้มาทำการล็อคล้อหรือออกใบสั่งทันที โดยเสียงสะท้อนส่วนใหญ่ตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรว่ามุ่งแต่จะเก็บค่าปรับเป็นหลัก
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า จากการสอบถามแหล่งข่าวในกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า อุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่มีติดตั้งบนถนนนิมมานเหมินทร์ ตามที่เป็นข่าว อยู่ภายใต้โครงการสมาร์ทซิตี้ (Smart Nimman) ซึ่งเป็นโครงการนำร่องของจังหวัดเชียงใหม่ โดยยังอยู่ในช่วงของการติดตั้งอุปกรณ์ก่อนที่จะทำการทดลองระบบ โดยข้อสงสัยของประชาชนที่ว่ามีเริ่มมีการใช้งานแล้วหรือไม่นั้น ยืนยันว่า ยังไม่มีการบังคับใช้ตามกฎหมาย จับกุม หรือเสียค่าปรับแต่อย่างใด ส่วนหลักการทำงานเบื้องต้นของอุปกรณ์ดังกล่าวนั้น เซ็นเซอร์จะเชื่อมต่อเข้ากับระบบของเจ้าหน้าที่ หากมีผู้นำรถไปจอดทับ สัญญาณจะแจ้งเตือน แบบ real-time เข้าไปยังระบบ ซึ่งถ้ามีการจอดในจุดห้ามจอด หรือจอดนานเกินปกติ สัญญาณจะแจ้งเตือนไปยังตำรวจจราจร ที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อเข้าดำเนินการตรวจสอบ แก้ไข และอำนวยความสะดวก ไม่ให้เกิดปัญหาการจราจร
ขณะที่แหล่งข่าวในทีมงานโครงการสมาร์ทซิตี้ (Smart Nimman) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ดังกล่าวไปแล้วจำนวนหนึ่ง จากทั้งหมด 171 จุด ที่จะมีการติดตั้งบนถนนนิมมานเหมินทร์ ทั้งเส้นหลักและเส้นรอง โดยหลักการและเป้าหมายที่แท้ที่จริงนั้น ไม่ได้มุ่งหวังที่เรื่องการบังคับใช้กฎหมายหรือจับกุมผู้ขับขี่ให้เสียค่าปรับ แต่วัตถุประสงค์หลักเป็นการใช้เพื่อตรวจสอบความหนาแน่นของการจราจร และจุดจอดรถ บนถนนเส้นนิมมานฯ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบหาจุดจอดรถทั้งบนถนนและที่จอดรถเอกชน เพื่อวางแผนประกอบการตัดสินใจในการเดินทางได้ เพราะจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับแอปพลิเคชันที่จะใช้ในการแจ้งและรายงานข้อมูล อย่างไรก็ตามเวลานี้ยังไม่มีการใช้อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด และคาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ1-2เดือน ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังจากที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ในวันที่ 9 ธ.ค.62 ทางกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมที่จะชี้แจงกรณีดังกล่างอย่างเป็นทางการ เพื่อทำความเข้าใจและให้รายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว.