บอกบุญญาติโยมร่วมบูชาแผ่นทองสร้างรูปหล่อ “หลวงปู่มั่น” ปางธุดงค์

อุดรธานี - วัดป่าโนนนิเวศน์ที่หลวงปู่มั่นเคยพำนัก 2 พรรษาปลื้มยูเนสโกยกย่องเป็นบุคคลสำคัญของโลก เผย 31 ม.ค. 63 มีพิธีมหามงคลหล่อรูปเหมือนหลวงปู่มั่นปางธุดงค์ตั้งไว้ในสวนธรรมให้ญาติโยมกราบรำลึก เชิญร่วมบูชาแผ่นทองจัดสร้างรูปหล่อหลวงปู่มั่นได้ทุกวันที่วัดป่าโนนนิเวศน์

เป็นเรื่องน่าปลาบปลื้มใจอย่างที่สุดของพุทธศาสนิกชน เมื่อ UNESCO (ยูเนสโก) ได้ประกาศยกย่องให้หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ในวาระที่มีชาตกาลครบ 150 ปี ใน พ.ศ. 2563 (20 ม.ค. 63) เป็นบุคคลสำคัญของโลกประจำวาระปี 2563-2564 สาขาสันติภาพ

หลวงปู่มั่น เป็นพระเถรานุเถระสายวิปัสสนากรรมฐาน เดินธุดงค์เกือบตลอดชีวิต มีผู้ปฏิบัติตามจำนวนมากจนเกิดพระป่าสายธรรมยุต ถือเป็นผู้นำกองทัพธรรมอย่างแท้จริง และพุทธศาสนิกชนชาวไทยให้ความเคารพนับถือจวบจนถึงปัจจุบัน

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดป่าโนนนิเวศน์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หลวงปู่มั่น ภูริทฺตโต หรือนามตามสมณศักดิ์ว่า พระครูวินัยธรมั่น ภูริทตฺโต เคยเดินทางมาปฏิบัติธรรมเผยแผ่พระพุทธศาสนาอยู่นานถึง 2 พรรษา โดยที่วัดแห่งนี้ได้มีการอนุรักษ์พื้นที่ที่เคยเป็นกุฏิของหลวงปู่มั่น จำลองตัวกุฏิไว้เพื่อกราบไหว้บูชา

จัดให้เป็นอนุสรณ์สถานให้ระลึกถึงพ่อแม่ครูอาจารย์ และยังได้ก่อสร้างอาคารวิหารหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต หลวงปู่ภูมี จิตฺตธมฺโม ที่มีการเก็บรักษาเครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่มั่นเอาไว้ในอาคาร


พระอธิการ ชวลิต กิจฺจสาโร เจ้าอาวาสวัดป่าโนนนิเวศน์ เปิดเผยว่า ในนามศิษยานุศิษย์ คณะสงฆ์ มีความรู้สึกปลื้มปีติ เป็นมหาบุญมหากุศลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากหลวงปู่มั่นท่านได้ชื่อว่าเป็นอริยสงฆ์ที่สำคัญที่สุดในยุครัตนโกสินทร์ก็ว่าได้ มีบทบาทสำคัญเป็นแม่ทัพธรรมอย่างแท้จริง มีลูกศิษย์มากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพระอริยสงฆ์ทั้งนั้น

ทั้งนี้ ทางวัดป่าโนนนิเวศน์ได้ร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัดจัดงานชาตกาลครบ 150 ปี หลวงปู่มั่น ล่วงหน้าไปแล้วในปี 2562 ที่ผ่านมา แต่จะมีงานสำคัญอีกครั้งในวันที่ 31 มกราคม 2563 เป็นงานหล่อรูปเหมือนหลวงปู่มั่นปางธุดงค์ และหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ซึ่งจะนำงานหล่อรูปเหมือนไปประดิษฐานไว้ในสวนธรรมที่จะจัดทำขึ้นใหม่ และหุ่นขี้ผึ้งจะนำไปไว้ในกุฏิจำลอง


พระอธิการ ชวลิต บอกว่า วัดป่าโนนนิเวศน์สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2477 มีเนื้อที่ทั้งหมด 32 ไร่ 2 งาน หลวงปู่มั่นท่านเคยมาพำนักอยู่ที่นี่เมื่อปี พ.ศ. 2482-2483 เป็นเวลา 2 พรรษา จากประวัติทราบว่าเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์สมภรณ์ ได้เดินทางไปที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ นิมนต์หลวงปู่มั่น อยากให้ท่านเดินทางมาที่อุดรธานีเพื่อโปรดญาติโยมบ้าง

หลังจากนั้นหลวงปู่มั่นได้เดินทางไปที่วัดบวร ที่กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางมาที่อุดรธานีตามคำกราบเชิญของลูกศิษย์ โดยเลือกวัดป่าโนนนิเวศน์เป็นที่พำนักปฏิบัติธรรม เพราะที่แห่งนี้สมัยก่อนนั้นเป็นป่าทึบหนาแน่นบรรยากาศสงบร่มเย็น และอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก

เจ้าอาวาสวัดป่าโนนนิเวศน์เปิดเผยอีกว่า จากคำบอกเล่าทราบว่าตลอดช่วง 2 พรรษาหลวงปู่มั่นปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง ออกบิณฑบาตโปรดญาติโยม และมีลูกศิษย์จากพื้นที่ใกล้เคียงเดินทางมากราบไหว้หลวงปู่อยู่เป็นประจำ พอถึงเวลาหลวงปู่มั่นออกธุดงค์ปลีกวิเวกไปยังที่อื่น หลวงปู่ภูมี จิตฺตธฺมโม เจ้าอาวาสวัดในขณะนั้น ได้เล็งเห็นว่ากุฏิที่ท่านเคยมาพำนักควรจะอนุรักษ์ไว้ให้ลูกศิษย์ญาติโยมได้กราบไหว้ ระลึกถึงหลักธรรมคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ และได้อนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน ที่ตั้งเป็นพื้นที่จริงเป็นบริเวณจริง แต่ตัวกุฏิที่เป็นไม้ได้บูรณะแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดคือปี พ.ศ. 2555

ส่วนอาคารวิหารหลวงปู่มั่น ภูริทฺตโต หลวงปู่ภูมี จิตฺตธฺมโม ได้จัดสร้างขึ้นในยุคหลัง สร้างเมื่อปี 2543 เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุ รวมทั้งเก็บรวบรวมเครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่มั่นบางส่วน ครั้งที่ท่านได้มาพำนักที่แห่งนี้ และเก็บรักษาอัฐิธาตุของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน, หลวงปู่ภูมี จิตฺตธมฺโม เอาไว้เพื่อให้ลูกศิษย์พุทธศาสนิกชนเข้ามากราบไหว้บูชา ซึ่งเปิดให้เข้าทุกวันจากเช้าจนถึงเย็น


ขออนุโมทนาบอกบุญท่านทั้งหลาย วันที่ 31 มกราคม 2563 จะเป็นงานหล่อรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ปางธุดงค์ ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ มีการเตรียมไม้จิกไว้ทำพิธีมหามงคล ระหว่างนี้ญาติโยมสามารถร่วมบูชาแผ่นทอง แท่งทอง เพื่อจัดสร้างรูปหล่อหลวงปู่มั่น ปางธุดงค์ ได้ทุกวัน ที่วัดป่าโนนนิเวศน์