สุรินทร์ - ช่างก่อสร้างเมืองช้างควบกระบะยางล้อหน้าระเบิด เสียหลักพุ่งตกถนนพลิกคว่ำ กระเด็นตกรถทับเสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บอีก 3 ราย บนถนนสาย 24 อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
วันนี้ (28 พ.ย.) เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากศูนย์สั่งการกู้ชีพปราสาท 1669 ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักพุ่งลงข้างทางพลิกคว่ำมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย บนถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายสีคิ้ว-อุบลราชธานี บริเวณบ้านม่วงเจริญ ม.4 ต.บ้านไทร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ หลังรับแจ้งเหตุได้ประสาน พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ ชุ่มพุทรา พนักงานสอบสวนเวร สภ.ปราสาท ออกตรวจสอบเหตุร่วมกับอาสาสมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุด อ.ปราสาท พร้อมหน่วยกู้ชีพตำบลบ้านไทร
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน บบ 9397 สุรินทร์ ทราบชื่อผู้ขับขี่คือ นายแสงเดือน โชติยา อายุ 43 ปี ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ถัดไปพบผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายนอง บรรณการ อายุ 64 ปี ม.14 ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เป็นผู้โดยสารอยู่ท้ายรถกระบะ ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกาย ปวดบวมบริเวณหัวไหล่ รู้สึกตัวดี หน่วยกู้ชีพตำบลบ้านไทรเข้าตรวจสอบให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่จุดเกิดเหตุ ก่อนเคลื่อนย้ายนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลปราสาทเป็นการเร่งด่วน
ในจุดเกิดเหตุยังพบผู้เสียชีวิตกระเด็นตกลงไปข้างทางถูกรถพลิกไปทับร่างเสียชีวิต พบบาดแผลฉีกขาดที่แขนและขาท่อนล่างซ้ายขนาดใหญ่ ลักษณะผิดรูปชัดเจน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมพร พันธ์ไชย อายุ 49 ปี ที่อยู่ 89/1 ม.14 บ.หลักชัย ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เป็นผู้โดยสารนั่งอยู่ท้ายรถกระบะ และกระเด็นตกจากรถ อาสาสมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุด อ.ปราสาท ได้เข้าทำการตรวจสอบและเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตนำส่งชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลปราสาท
จากการสอบถาม นายแสงเดือน โชติยา อายุ 43 ปี คนขับรถกระบะคันเกิดเหตุ เล่าว่า ได้ขับรถออกจากบ้านที่ ต.สะกาด อ.สังขะ เพื่อพากันไปทำงานต่อเติมบ้านเรือนที่ บ.กระดาษ อ.ปราสาท ขณะขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ลมยางหน้ารถข้างซ้ายเกิดรั่วกะทันหันทำให้รถเสียการทรงตัว ตนพยายามควบคุมรถแต่ไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลให้รถเสียหลักพุ่งลงข้างทางพลิกคว่ำ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ทางด้าน พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ ชุ่มพุทรา พนักงานสอบสวนเวร สภ.ปราสาท ได้เข้าตรวจสอบเก็บภาพและข้อมูลเบื้องต้นในจุดเกิดเหตุและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจะได้เรียกคนขับรถคันดังกล่าว รวมถึงพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป