xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป)ย่างทีกลิ่นฟุ้งเต็มตลาดซาวไฮ่! หนุ่มบ้านไร่ต่อยอดบ่อปลาหมอหลังบ้าน จับย่างสมุนไพรขายวันหยุดลูกค้าตรึม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุทัยธานี - หนุ่มบ้านไร่ไอเดียแจ๋ว เพาะพันธุ์ปลาหมอชุมพรไว้กินเองเสร็จ ปลาออกลูกออกหลานเต็มบ่อจนขายได้แทบทุกวันไม่พอ คิดสูตรเด็ดจับย่างสมุนไพรกลางตลาดซาวไฮ่ทุกเสาร์-อาทิตย์ สร้างรายได้เสริมช่วงวันหยุดเรือนหมื่นต่อเดือน




“ตลาดซาวไฮ่ บ้านไฮ่ บ้านเฮา” ที่เปิดบริการจำหน่ายสินค้าพื้นถิ่นของชาวบ้านไร่ จ.อุทัยธานี ทุกเสาร์-อาทิตย์ กำลังเป็นอีกหมุดหมายหนึ่งของการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวอุทัยฯ และคนต่างถิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ..เพราะเป็นแหล่งรวมอาหารการกิน พืชผัก สินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านมาวางจำหน่ายครบถ้วน

และหนึ่งในร้านที่มีลูกค้าแวะเวียนเข้าไปไม่ขาดสาย ก็คือร้านปลาหมอชุมพรย่างสมุนไพร@ตลาดซาวไฮ่ ของนายบุญมี จันทิสา พ่อค้าหนุ่มวัย 44 ปี ชาว ต.ทัพหลวง หมู่ 15 อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ที่นำปลาหมอชุมพรตัวอ้วนโตผสมสูตรเด็ดเคล็ดลับหมักสมุนไพรย่างด้วยเตาถ่านจนหนังกรอบ-เนื้อในหวานนุ่ม เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ จนเป็นอีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของตลาดที่ใครได้มาเยือนต่างต้องแวะลิ้มชิมรสชาติ


นายบุญมี จันทิสา พ่อค้าหนุ่มวัย 44 ปี ชาว ต.ทัพหลวง หมู่ 15 อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เจ้าของร้าน เปิดเผยถึงอาชีพย่างปลาหมอพันธุ์ชุมพรขายในตลาดซาวไฮ่ ว่า ตนเป็นคนชอบกินปลาหมอย่าง และเป็นปลาหมอนาซึ่งตัวไม่โต จึงคิดเพาะพันธุ์ปลาหมอชุมพร ซึ่งเป็นปลาเศรษฐกิจไว้กินเองภายในบ้าน พอเพาะพันธุ์และเลี้ยงปลาหมอชุมพรสำเร็จก็เลยต่อยอดสร้างเป็นอาชีพจับปลาสดขายได้ทุกวันเป็นรายได้เข้าครอบครัว

ต่อมาจำนวนปลาได้ขยายพันธุ์เพิ่มมากขึ้น จึงมาคิดต่อว่าจะทำอย่างไรจึงจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้ได้มากกว่าขายปลาสดเป็นกิโลฯ ซึ่งระยะเพาะพันธุ์จนสามารถจับปลาหมอชุมพรขายได้นั้นจะอยู่ที่ 5 เดือน ส่วนแม่พันธุ์จะอยู่ที่ 8 เดือน ใน 1 กิโลฯ จะได้ปลาประมาณ 2-3 ตัว

“ปลาหมอชุมพรยิ่งเลี้ยงไว้นานก็ยิ่งทำให้ปลามีเนื้อแน่นรสชาติอร่อย จึงเกิดไอเดียคิดสูตรปลาหมอชุมพรย่างสมุนไพร ขายที่ตลาดซาวไฮ่ ตลาดของชาวไร่ชาวสวน ที่นำสินค้าทั้งพืชผักท้องถิ่นมากมาย รวมถึงหัตถกรรมผ้าทอต่างๆ มาวางขายในราคาถูกให้แก่ชาวอุทัยธานี และนักท่องเที่ยวที่มาบ้านไร่ทุกวันเสาร์และอาทิตย์”


สำหรับสูตรปลาหมอชุมพรย่างสมุนไพรเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ประกอบด้วย ตะไคร้ ใบมะกรูดนำไปตากแห้ง บดละเอียด ผสมกับเกลือป่นให้มีรสเค็ม แต่ก่อนที่จะทำการหมักปลากับสมุนไพรต้องมีขั้นตอนนำปลาหมอที่จะนำมาหมักขังน้ำไว้ในถังใบใหญ่ หั่นหยวกกล้วย หรือต้นกล้วยใส่ไปในถังเพื่อไม่ให้ปลาดิ้นเหมือนอยู่ในโคลน จากนั้นจึงจับปลาไปแช่ในถังน้ำแข็งเพื่อน็อกน้ำ จะไม่ใช้วิธีทุบปลาให้ตายเพราะจะทำให้ปลาช้ำ และยังทำให้ดีในตัวปลาแตกมีรสขม พร้อมทั้งจะไม่มีการผ่าท้องเอาไส้มันออก

จากนั้นจึงนำไปล้างให้สะอาดอีกครั้ง ก่อนนำไปหมักในกล่องพลาสติก โรยสมุนไพรที่เตรียมไว้ผสมกับเกลือป่นให้มีรสชาติออกเค็มแล้วเขย่าคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนจะนำไปย่างบนเตาถ่านไฟอ่อนๆ จนหนังของปลากรอบ เนื้อในของปลาจะสุกนุ่มหอมหวาน


หากใครชอบรับประทานหนังปลาด้วยก็จะสามารถรับประทานได้ทั้งตัว จิ้มกับน้ำจิ้มรสเด็ดที่ปรุงจากพริกขี้หนูสดบดกับกระเทียมผสมกับน้ำต้มสุก น้ำมะขามเปียก และตัดหวานด้วยน้ำเชื่อมไม่ให้ออกหวานจัด และไม่ใส่ผงชูรสอีกด้วย

ส่วนราคานั้นจะขายตามขนาดของตัวปลา ซึ่งมีขนาด 3-4 ตัวต่อ 1 กิโลกรัม โดยปลาเผาจะขายในราคาตัวละ 50, 60 และ 70 บาท วันหนึ่งขายได้วันละไม่ต่ำกว่า 100 ตัว เฉลี่ยแล้วขายได้ประมาณวัน 5,000-7,000 บาท ขายเพียงเดือนละ 8 วัน แต่สามารถสร้างรายได้ถึง 4 หมื่นบาท หักต้นทุนแล้วจะมีรายได้เกือบ 3 หมื่นบาททีเดียว








กำลังโหลดความคิดเห็น