สระแก้ว - รมช.เกษตรฯ เดินหน้ายึดที่ดินจากนายทุนจัดสรรคืนให้เกษตรกรใน 4 อำเภอ ของ จ.สระแก้ว ได้แล้ว 78 แปลง เนื้อที่รวม 87,071 ไร่ พร้อมพัฒนาเป็นโครงสร้างพื้นฐานส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน
วันนี้ (25 พ.ย.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระแก้ว จำนวน 150 ราย พร้อมมอบบัตรดินดีให้เกษตรกร 20 ราย ในพื้นที่แปลง คทช.ที่ 421 ม.8 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
โดยมี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ จ.สระแก้ว นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ทั้งนี้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระแก้ว (ส.ป.ก.สระแก้ว) จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2536 ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัดสระแก้ว แยกมาจากจังหวัดปราจีนบุรี ได้ดำเนินการประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินตั้งแต่ปี พ.ศ.2521 โดยมีพื้นที่ดำเนินการทั้งสิ้นประมาณ 2.04 ล้านไร่ ประกอบด้วย 9 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองสระแก้ว เขาฉกรรจ์ คลองหาด โคกสูง ตาพระยา วังน้ำเย็น วังสมบูรณ์ วัฒนานคร และ อ.อรัญประเทศ
และได้ดำเนินการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินแก่เกษตรกรแล้ว จำนวน 0.20 ล้านราย 0.13 ล้านแปลง เนื้อที่รวม 1.30 ล้านไร่ และมีพื้นที่คงเหลือประมาณ 0.74 ล้านไร่ อยู่ระหว่างดำเนินการ
ร.อ.ธรรมนัส เผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านการจัดการที่ดินและดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล (คทช.) แล้ว ยังถือโอกาสพบปะเกษตรกรและประชาชนใน จ.สระแก้ว ซึ่งส่วนใหญ่ประสบปัญหาเรื่องสิทธิการเข้าอยู่อาศัยและที่ดินทำกิน
"โดยพื้นที่กว่า 80% ใน จ.สระแก้ว อยู่ในความดูแลของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สำหรับพื้นที่แปลง คทช. No.421 เป็นการตรวจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน ซึ่งได้จัดสรรในรูปแบบสหกรณ์ มีเกษตรกรเข้าอยู่อาศัย จำนวน 36 ครอบครัว และกระทรวงเกษตรฯ ได้เข้ามาดูแลและส่งเสริมการประกอบอาชีพอย่างครบวงจร จึงถือเป็นโอกาสดีที่ได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนลำไย เกี่ยวกับเรื่องมาตรฐาน GAP และแรงงานในสวนลำไย ซึ่งจะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป"
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า การดำเนินงานในพื้นที่การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) นั้น ส.ป.ก. ประกาศเป็นพื้นที่ คทช. ทั้งประเทศประมาณ 0.40 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ดำเนินการในจังหวัดสระแก้ว จำนวน 78 แปลง เนื้อที่ 87,071 ไร่ สามารถยึดคืนมาดำเนินการโดยให้สถาบันเกษตรกรเช่าทำประโยชน์แล้ว จำนวน 4 สหกรณ์
ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินอำเภอวังน้ำเย็น จำกัด สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินอำเภออรัญประเทศ (คทช.) จำกัด สหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินอำเภอโคกสูง (คทช.) จำกัด และสหกรณ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินอำเภอวัฒนานคร (คทช.) จำกัด ทำให้เกษตรกรมีที่ดินทำกิน จำนวน 301 ราย เนื้อที่จำนวน 3,304 ไร่ และอยู่ระหว่างดำเนินการจัดที่ดินให้สถาบันเกษตรกรเพิ่มเติมอีก จำนวน 2,405 ไร่
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้บูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้แก่เกษตรกรในที่ดิน คทช. เช่น การสร้างถนนเข้าพื้นที่ แหล่งน้ำ และบ้านพัก เป็นต้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถประกอบอาชีพทางการเกษตรในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
ด้าน นายวิศิน ฟองสมุทร ชาวบ้าน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ซึ่งได้รับเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เนื้อที่ 29 ไร่เศษ บอกว่ารอคอยเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.มาตั้งแต่ปี 2520 จนปัจจุบันจึงได้รับ ส.ป.ก.ซึ่งตนเองดีใจมาก และจะนำที่ดินไปประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ทำติดต่อกันมานานต่อไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน
เช่นเดียวกับ นางเฟื่อง พิมพ์ศร อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ม.11 ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น ซึ่งได้รับจัดสรรที่ดินในโครงการ คทช. เนื้อที่ 6 ไร่ แบ่งเป็นที่ดินทำกิน 5 ไร่ และที่อยู่อาศัย 1 ไร่ บอกว่าจากเดิมมีที่ดินของพ่อแม่เพียงแค่ไม่กี่งาน ตอนนี้มีที่ดินไว้ทำการเกษตรแล้ว จะตั้งใจพัฒนาที่ดินให้มีรายได้ต่อไป