สุโขทัย - ใครเห็นเป็นต้องวนดูแล้วดูอีก..ภาพจิตรกรรมฝาผนังปริศนาธรรมวัดอดีตพระเกจิดังสุโขทัย มีทั้งการ์ตูนจดหมายเหตุ คสช.ลุงตู่ถือหอกสาย RPG เหยียบจมูกยักษ์-โดราเอมอนผิวปากโต้คลื่น-ไจแอนท์ขี่คอโนบิตะ สะท้อนสังคม
ศรัทธาชาวพุทธ ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปทำบุญที่วัดฤทธิ์ศิริราษฎร์เจริญธรรม หรือวัดน้อย หมู่ 4 ต.บ้านสวน อ.เมืองสุโขทัย จะพบว่าในพระอุโบสถหลังใหญ่สวยงามของวัดนอกจากมีจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติตอนชนะมาร ยังมีภาพวาดสอดแทรกปริศนาธรรมกับคติสอนใจ เป็นภาพการ์ตูนลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สวมชุดนักรบไทยโบราณ มือขวาถือหอก มือซ้ายถือดาบ หลังสะพายจรวด RPG กับธง “คสช.” ยืนเหยียบบนจมูกยักษ์ โดยเท้าข้างหนึ่งแหย่เข้าไปในจมูกยักษ์ด้วย สร้างความสนใจแก่ผู้พบเห็นอย่างมาก
พระครูสมุห์สำรวย ปุณญกาโม เจ้าอาวาสวัดฤทธิ์ศิริราษฎร์เจริญธรรม เปิดเผยว่านอกจากภาพนายกฯประยุทธ์สวมชุดนักรบ ยืนเหยียบจมูกยักษ์แล้ว บนผนังโบสถ์ก็ยังมีภาพการ์ตูนโดราเอมอนผิวปากขี่กระดานโต้คลื่น กับโดราเอมอนใบหน้าวิตกกังวลห้อยเกาะตรงหนวดยักษ์ และภาพวาดไจแอนท์สบายใจขี่คอโนบิตะที่กำลังเข่าทรุดบนจมูกยักษ์ พร้อมข้อความระบุ “ไม่แบกก็ไม่หนัก” ทั้งหมดล้วนเป็นปริศนาธรรมกับคติสอนใจ ดึงดูดให้เด็กๆ และผู้ปกครองเห็นแล้วก็อยากที่จะรู้ความหมาย และใฝ่ในธรรมด้วย
นายนพรัตน์ ดิษฐ์บ้านไร่ หรือช่างตาล อายุ 40 ปี ผู้วาดภาพดังกล่าว เปิดเผยว่า สำหรับภาพไจแอนท์ขี่คอโนบิตะอย่างสบายใจนั้น ไจแอนท์หมายถึงตัวปัญหา โนบิตะคือคนอ่อนแอชอบแบกภาระที่ไม่ใช่ของตัวเอง เสมือนคนยุคนี้ที่วุ่นวายสาละวนอยู่ในโลกโซเชียลฯ กับเรื่องดารา การเมือง ปัญหาต่างๆ จนเกิดภาวะความเครียด ถูกยักษ์กลืนกินเป็นโรคซึมเศร้า บางคนถึงขั้นฆ่าตัวตาย ดังนั้นต้องรู้จักปล่อยวาง ไม่เก็บเอาปัญหาของคนอื่นมาคิดให้วุ่นวายใจ “ไม่แบกก็ไม่หนัก”
ส่วนโดราเอมอนผิวปากขี่กระดานโต้คลื่น หมายถึงคนที่กำลังดิ้นรนต่อสู้ มุ่งไปสู่ความสำเร็จด้วยตัวเองอย่างมีความสุขและภาคภูมิใจ แต่โดราเอมอนอีกตัวใบหน้าวิตกกังวล ห้อยเกาะตรงหนวดยักษ์นั้นขี้เกียจ ชอบอาศัยบารมีของผู้มีอำนาจ คอยแต่จะเกาะขอเขากินตลอดเวลา
ขณะที่ภาพลุงตู่สวมชุดนักรบโบราณ มือถือหอกถือดาบ หลังสะพายจรวด RPG กับธง “คสช.” ยืนเหยียบบนจมูกยักษ์ โดยเท้าข้างหนึ่งแหย่เข้าไปในจมูกเพื่อไม่ให้ยักษ์หายใจได้สะดวก พร้อมกับมีเลื่อยโซ่ยนต์วางอยู่ใกล้ๆ เพื่อจะใช้ตัดเขี้ยวยักษ์ด้วยนั้น เป็นภาพจดหมายเหตุที่วาดเสร็จในยุค คสช.
“ผมจบแค่ ม.6 แต่ชอบวาดภาพมาตั้งแต่เด็ก อาศัยครูพักลักจำ ใครเก่งผมก็ไปขอวิชาเขามาฝึกฝน และภาพทั้งหมดในโบสถ์วัดฤทธิ์ฯแห่งนี้ ผมก็วาดคนเดียว โดยใช้เวลา 1 ปีเต็มจึงแล้วเสร็จ” ช่างตาลกล่าว
สำหรับวัดฤทธิ์ศิริราษฎร์เจริญธรรม วัดเก่าแก่แห่งนี้ “หลวงพ่อสัมฤทธิ์ เทวะ” สุดยอดพระเกจิแห่งเมืองสุโขทัย อดีตเจ้าอาวาสท่านได้ทำการบูรณะขึ้นใหม่อีกครั้งเมื่อ 150 ปีที่ผ่านมา หลังกลับจากร่ำเรียนวิชาอาคมกับเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ที่วัดระฆังโฆสิตารามฯ
และต่อมาหลวงพ่อห้อม อมโร อดีตเจ้าอาวาสวัดคูหาสุวรรณ จ.สุโขทัย และหลวงพ่อซวง อภโย อดีตเจ้าอาวาสวัดชีปะขาว จ.สิงห์บุรี พระเกจิชื่อดังทั้งสองท่าน ก็ได้มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์เรียนวิชากับหลวงพ่อสัมฤทธิ์ เทวะ ที่วัดฤทธิ์ศิริราษฎร์เจริญธรรมแห่งนี้ด้วย