พระนครศรีอยุธยา- สลด! สามีเลิกกับภรรยา 1 เดือน จัดงานวันเกิดลูกชายวัย 4 ขวบ พอภรรยามารับลูก ใช้ปืนยิงภรรยาดับต่อหน้าแม่ยาย และลูกชายวัย 4 ขวบขณะมารับกลับ
วันนี้ (21 พ.ย.) พ.ต.ท.ธเนศพล แสงโชติ สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณข้างบ้านเลขที่ 38 หมู่ 3 ตำบลตลาดเกรียบ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์
ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย คือ น.ส.วรวลัญช์ สังข์วิเศษ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/1 หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยคันแหลน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง สภาพสวมชุดนอน มีบาดแผลถูกยิงบริเวณไหล่ข้างซ้ายทะลุ นอนหงายจมกองเลือด ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย คือนายสิทธิพร วันดี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 3 ตำบลตลาดเกรียบ อำเภอบางปะอิน จังหวัด พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุลงมือและเป็นสามีผู้เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ใช้อาวุธปืนยิงศีรษะทะลุเบ้าตา เจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลบางปะอิน ช่วยกันปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาไปก่อนหน้านี้แล้ว
จากการสอบถาม นางธวัลรัตน์ ธัญญาดี อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นแม่ผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บถูกลูกหลงอาวุธปืนยิงเฉียดหัวไหล่ซ้าย กล่าวว่า นายสิทธิพร ผู้ก่อเหตุเป็นสามีของผู้เสียชีวิตแต่ได้เลิกรากันไปแล้ว 1 เดือน และวันนี้เป็นวันเกิดของลูกชายซึ่งอายุ 4 ขวบ ลูกสาวจึงได้พาลูกชายมาส่งที่บ้าน นายสิทธิพร เมื่อช่วงเวลา 20.00 น. เพื่อจัดงานวันเกิด
พอช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ลูกชายของผู้เสียชีวิตได้โทรศัพท์ ไลน์ และวิดีโอคอลมาหาผู้เสียชีวิตว่าอยากกลับบ้านแล้วให้มารับด้วย และผู้เสียชีวิตได้เห็นนายสิทธิพร ถืออาวุธปืนโชว์อยู่ขณะคุยกับลูกชาย จึงได้ชวนตนขับรถยนต์กระบะออกมารับลูกชายที่บ้านของผู้ก่อเหตุ พอขับมาถึงตนจึงเดินเข้าไปในบ้านอุ้มหลานชายออกมา
ส่วนลูกสาวนั้นได้ยืนอยู่หน้าบ้าน และนายสิทธิพร ผู้ก่อเหตุได้เดินออกมาจากบ้านแล้วพาลูกสาวเดินไปข้างบ้าน จากนั้นใช้อาวุธปืนยิงลูกสาวทันที จำนวน 2 นัด จนล้มฟุบจมกองเลือด แล้วนายสิทธิพร ได้ใช้อาวุธปืนที่ก่อเหตุยิงขมับตัวเองเพื่อตายตาม แต่ยังไม่เสียชีวิต ทางญาติของผู้ก่อเหตุจึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล
“ไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นและต้องมาสูญเสียลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับ และหลานชายก็ต้องมาเสียแม่ไป ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบ ทราบเพียงว่าลูกสาวกับผู้ก่อเหตุนั้นได้เลิกรากันไปแล้วประมาณ 1 เดือน แต่ทั้งคู่ก็ยังไปรับลูกมาดูแลกัน”
จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของนายสิทธิพร พบว่า ได้เขียนข้อความเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อเวลา 23.05 น. ว่าไปไอ้ลูกรักไปกับพ่อนะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปทำการสอบสวนนายสิทธิพร ผู้ก่อเหตุอีกครั้งที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการลงมือในครั้งนี้ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลบางปะอิน