กาฬสินธุ์ - บรรยากาศการประดิษฐ์กระทงเพื่อเตรียมปล่อยลงแหล่งน้ำตามประเพณีของชาวไทยที่เมืองน้ำดำคึกคักตั้งแต่เช้า โดยผู้ปกครองได้ใช้ภูมิปัญญานำบุตรหลานประดิษฐ์กระทงจากวัสดุใกล้ตัว หาง่าย และสบายใจ ไม่ต้องกลัวถูกจับละเมิดลิขสิทธิ์
วันนี้ (11 พ.ย.) ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 หรือขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นวันสำคัญตามฮีต 12 คลอง 14 ของชาวไทยที่สืบทอดมาแต่สมัยกรุงสุโขทัย กำหนดเป็นวันลอยกระทงประจำปี โดยจะมีการนำวัสดุประเภทใบตอง ต้นกล้วย มาประดิษฐ์เป็นกระทงสำหรับลอยน้ำ และประดับให้สวยงามด้วยดอกไม้ ธูป เทียน เพื่อบูชาและขอขมาแม่พระคงคาที่ให้น้ำและหล่อเลี้ยงสรรพชีวิตมีความสุขร่มเย็น รวมทั้งอธิษฐานปล่อยทุกข์ปล่อยโศกไปกับสายน้ำตามความเชื่อ
จากการติดตามบรรยากาศการประดิษฐ์กระทงของชาวบ้าน ทั้งตามเขตชนบทและเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พบว่ามีความคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า โดยผู้ปกครองจะพาบุตรหลานตระเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ประดิษฐ์กระทง นำไปลอยกันในช่วงเย็นของวันนี้ บางครอบครัวช่วยกันประดิษฐ์กระทงจำหน่ายให้แก่เพื่อนบ้านที่ไม่มีเวลาทำกระทงเอง
นางถา นระแสน อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 190 หมู่ 14 บ้านสุขสวัสดิ์ ต.หลุบ อ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปกติตนจะอยู่บ้านเลี้ยงหลาน แต่ช่วงนี้ได้พาลูกหลานมาประดิษฐ์กระทงจากใบตองจำหน่ายที่บริเวณใกล้เคียงกับสวนสาธารณะกุดน้ำกิน ที่ใช้เป็นสถานที่ลอยกระทงของเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ทั้งนี้จะทำขายเป็นรายได้เสริมในช่วงวันลอยกระทงเป็นประจำทุกปี โดยใช้วัสดุใกล้ตัว
เช่น ใบตอง ต้นกล้วย ดอกไม้ ที่ปลูกไว้ในสวนข้างบ้านมาเป็นส่วนประกอบหลักในการทำกระทง จะซื้อมาประกอบเล็กน้อยก็เพียงธูป เทียนเท่านั้น
นางถากล่าวอีกว่า การประดิษฐ์กระทงเป็นภูมิปัญญาที่ได้รับการฝึกฝนจากรุ่นพ่อรุ่นแม่สืบต่อกันมา มีการประยุกต์ให้ทันยุคสมัยบ้าง เช่น นำขนมปัง และถ้วยไอศกรีมมาประดิษฐ์เป็นกระทงรูปตุ๊กตาน่ารักๆ เพื่อเอาใจเด็ก เยาวชน ขณะที่ราคาจำหน่าย เริ่มตั้งแต่ 30-50 บาท ตามขนาดเล็กใหญ่ และความประณีต
นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันให้ลูกค้าที่มีเงินน้อยหรือมากันเป็นกลุ่มหลายคนก็จะลดให้เป็นพิเศษ อันละ 5 บาท 10 บาทก็ขาย ขอให้มาอุดหนุนกันเท่านั้น เพราะไม่หวังกำไรมาก โดยในปีนี้เตรียมกระทงไว้จำหน่ายประมาณ 200 อัน
อย่างไรก็ตาม การทำกระทงจากใบตองถือเป็นภูมิปัญญาไทยอีสาน ใช้วัสดุที่หาง่าย ย่อยสลายง่าย ไม่สร้างมลพิษ ที่สำคัญทำแล้วสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครแอบอ้างมาทวงค่าลิขสิทธิ์