เชียงราย - กรมอุทยานฯ นิมนต์พระ-เชิญพราหมณ์ ตั้งโต๊ะทำพิธีบวงสรวง ก่อนเปิดให้เข้าชมโถงแรกอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่มารอต่อแถวรำลึกบรรยากาศกู้ภัยระดับโลกช่วยทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิตติดถ้ำ
วันนี้ (1 พ.ย.) นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เป็นประธานในพิธีเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมถ้ำหลวง อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างเป็นทางการ หลังจากทดลองเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเมื่อ 27 ต.ค.มาแล้ว ท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่มารอเข้าชมเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายจงคล้ายได้นำบวงสรวงบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณปากถ้ำ ที่ตั้งของศาลเจ้าแม่นางนอน ก่อนที่พราหมณ์จะนำกล่าวคำบวงสรวง โปรยข้าวตอกดอกไม้ ประกอบพิธีบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์ให้ศีลและเจริญพระพุทธมนตร์ ถวายจตุปัจจัย-ไทยทานแด่พระสงฆ์
ก่อนที่นายจงคล้ายได้ทำการเปิดปากถ้ำหลวง พร้อมแจ้งกฎระเบียบแก่ผู้ที่จะเข้าชมถ้ำหลวงว่าทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะเปิดให้เข้าชมถ้ำหลวงได้ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.ทุกวัน โดยให้คนที่ต้องการจะเข้าชมติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่เพื่อรับบัตรเข้าชมเป็นจุดๆ ละ 20 คน และต้องคืนบัตรหลังเข้าชมถ้ำทุกครั้งด้วย
จากนั้นได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเฉพาะที่มีบัตรได้เดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าชมตรงบริเวณโถง 1 ซึ่งเป็นโถงใหญ่ และโถงแรกของถ้ำหลวงที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย รวมทั้งร่องลำธารจากในถ้ำออกมา โดยเจ้าหน้าที่จะกำหนดเวลาเข้าชมที่เหมาะสมและให้นักท่องเที่ยวได้รักษาเวลาอย่างเข้มงวด รวมทั้งกำหนดให้อยู่เฉพาะจุดที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย หากฝ่าฝืนจนเกิดอุบัติเหตุหรือพลัดหลงเจ้าหน้าที่จะไม่ผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นด้วย สิ่งสำคัญอีกประการของให้ช่วยกันรักษาความสะอาดและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย
อย่างไรก็ตามในการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมโถงถ้ำหลวงอย่างเป็นทางการนี้ เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าชมได้เฉพาะโถงที่ 1 ซึ่งยังคงมีคานโลหะอยู่ด้านบนและมีทางเดินเล็กๆ ลัดเลาะขอบผนังถ้ำลงไปสู่กลางโถงถ้ำก่อนจะเข้าสู่ช่องเล็กภายในต่อไป สามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นและมืด รวมทั้งหินงอกหินย้อยภายในโดยที่มีโพรงอากาศอยู่ด้านหลัง เช่นเดียวกับบรรยากาศที่เยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คน และทีมกู้ภัยจากทั้งไทย-ต่างประเทศเคยประสบมาเช่นเดิม
นายจงคล้ายกล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี สำรวจถ้ำหลวงก่อนหน้านี้พบว่าแท้จริงแล้วความลึกจากปากถ้ำตรงโถงที่ 1 ไปจนถึงบริเวณเนินนมสาวที่เยาวชนทั้ง 13 คนเคยติดอยู่มีระยะทางประมาณ 2,315 เมตร หรือราวๆ 2.3 กิโลเมตรเท่านั้น ไม่ได้ลึกถึงระดับ 5-6 กิโลเมตรอย่างที่เคยเข้าใจกัน
ส่วนจุดที่เปิดให้เข้าชมได้ในครั้งนี้ คือ บริเวณปากถ้ำตรงโถงแรก มีบรรยากาศของสถานที่ที่ทำให้รำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตได้เป็นอย่างดี ซึ่งทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ก็จะได้อนุรักษ์และบริหารจัดการให้มีความเหมาะสมและสมดุลระหว่างธรรมชาติและการท่องเที่ยวให้มีความลงตัวต่อไป
ด้านนายกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ กล่าวว่า สำหรับการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมถ้ำหลวงด้วยการแลกบัตรดังกล่าวจะจัดแบ่งเข้าชมได้รอบละ 3 จุดๆ ละจำนวน 20 คน คือ ปากทางเข้าถ้ำ หน้าศาลเจ้าแม่นางนอน และบริเวณปากโถงถ้ำแรก รวมรอบละ 60 คน แต่ถ้าจำนวนนักท่องเที่ยวแออัดกันมากเกินไปจนเป็นแถวยาวก็สามารถจะเพิ่มให้เป็นจุดละ 30 คน หรือรอบละ 90 คนได้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวรวม 1,971 คน และตลอดปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้าชมอุทยานถ้ำหลวงฯ มากถึง 1,573,475 คน มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง และมากกว่าแห่งอื่นๆ เช่น เขาใหญ่ เขาคิชฌกูฏ เกาะพีพี อ่างพังงา ดอยอินทนนท์ ฯลฯ เนื่องจากประชาชนและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการไปสัมผัสบรรยากาศและศึกษาเหตุการณ์การประสบเหตุติดถ้ำหลวงของเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี 13 คน ที่หลงไปติดอยู่ในถ้ำหลวงช่างกลางปี 2561 ที่ผ่านมา
ดังนั้น ทางกรมอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พัฒนาสถานที่ทั้งถนน จุดท่องเที่ยว ส่วนศิลปินชาวเชียงรายนำโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติได้สร้างศาลาอนุสรณ์สถานไว้หน้าถ้ำหลวง ภายในมีภาพวาดเหตุการณ์ใบใหญ่หลายใบที่งดงามอย่างยิ่ง รวมทั้งมีอนุสาวรีย์นาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่ด้านหน้าด้วย