ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สะพัด ตร.เชิญตัวคนตระเวนกดเอทีเอ็มสอบพัวพันคดีฆ่าโหดไฮโซสาวใหญ่สายบุญยัดศพใส่ตู้เย็นโบกปูนทับ ขณะที่แม่ชีผู้ร่วมปฏิบัติธรรมร่วมไว้อาลัย ด้านพยานเผยชาวบ้านได้กลิ่น-เห็นน้ำเหลืองไหลตั้งแต่สิบกว่าวันก่อน โทร.เข้ามือถือมีชายปริศนารับสาย
กรณีคดีสะเทือนขวัญคนร้ายฆ่าโหด นางสาววรรณี จิรเจริญยิ่ง สาวใหญ่ไฮโซสายบุญอายุ 58 ปี ที่มาปฏิบัติธรรม ณ วัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ มัดมือ-มัดเท้านำศพยัดตู้เย็นภายในห้องครัวตึกแถวสองชั้นซอยตรงข้ามวัดดังกล่าว พร้อมโบกปูนทับอีกชั้น คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 อาทิตย์ จนส่งกลิ่นคลุ้งไปทั่ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามไล่ล่าผู้ต้องสงสัยเป็นสาวทอมตัวดำกับหญิงร่างใหญ่คู่หูอยู่นั้น
นายพงศกร เรือนแก้ว อายุ 66 ปี พนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลบ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ป้องกันฯ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านเลขที่ 90/3 หมู่3 ต.บ้านกลาง อ.จอมทอง มีกลิ่นเหม็นเน่าคล้ายกลิ่นศพเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 62 เวลา 10.45 น.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พบว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวซึ่งเป็นตึกแถวสร้างใหม่มีกลิ่นเหม็นเน่าจริง ประตูบ้านถูกปิดแต่มีน้ำเหลืองไหลออกมาด้านนอกด้วย เมื่อตรวจสอบเจ้าของบ้านพบว่าเป็นแม่ชี ซึ่งปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง จึงได้ประสานไปยังวัดฯ พร้อมได้สอบถามข้อมูลก็ได้เบอร์โทรศัพท์ของแม่ชีมา
จากนั้นเวลา 10.46 น. ของวันเดียวกันตนได้โทรศัพท์ไปยังเบอร์ดังกล่าว ก็มีเสียงของผู้ชายอ้างว่าเป็นหลานรับจึงสอบถามไปว่า..เป็นเบอร์ของแม่ชีใช่หรือไม่ ชายคนดังกล่าวก็ตอบว่าใช่มีอะไรเหรอ ตนเลยถามว่า..ตอนนี้แม่ชีอยู่ที่ไหนต้องการคุยกับแม่ชีเพราะมีชาวบ้านแจ้งมาว่ามีกลิ่นเหม็นเน่าข้างบ้านของแม่ชี ชายคนดังกล่าวก็ตอบว่า มีอะไรเหรอ ตอนนี้แม่ชีไม่อยู่ไปประเทศอินเดีย ตนจึงบอกว่าชาวบ้านแจ้งมาว่าบ้านของแม่ชีมีกลิ่นเหม็นเน่าให้แม่ชีมาดูหน่อย..ชายคนดังกล่าวก็ตอบว่า..ผมกำลังจะเดินทางไปจอมทองตอนนี้ผมอยู่เพชรบูรณ์อยู่ไว้เจอกันตอน 5 โมงเย็นแล้วผมจะโทร.หาตอนนี้อยู่เพชรบูรณ์อยู่ หลังจากนั้นตนจึงวางสายโทรศัพท์ พร้อมบอกทุกคนว่าจะมีคนมาเปิดให้ตอน 5 โมงเย็น ทุกคนก็กลับบ้าน
นายพงศกรเปิดเผยอีกว่า หลังจากโทรศัพท์เสร็จแล้วตนก็ได้บอกให้ชาวบ้านทราบว่าเขานัดเจอตอน 5 โมงเย็นจะมาเปิดประตูบ้าน ชาวบ้านจึงกลับบ้านไป กระทั่ง 5 โมงเย็นของวันเดียวกันทุกคนก็กลับมาอีกครั้ง เพื่อมารอเปิดประตู จนเลยเวลา 5 โมงไปแล้วก็ไม่มีใครโทรศัพท์มาหา ตนจึงโทร.กลับไปหาเบอร์ดังกล่าวอีกครั้งเมื่อเวลา 17.12 น. และเวลา 17.39 น. และเวลา 18.02 น. เบอร์ดังกล่าวก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย ต่อมาวันที่ 19 ต.ค. เวลา 09.54 น. และเวลา 09.56 น. ตนก็ได้โทร.ไปอีกครั้งไม่มีใครรับแล้วปิดมือถือไปเลย
จนกระทั่งต่อมาสามารถติดต่อญาติของนางสาววรรณี ทำให้ทราบว่าในช่วงก่อนหน้าก่อนวันที่ 19 ต.ค. 62 ยังได้รับการส่งข้อความจากไลน์ของนางสาววรรณีติดต่อพูดคุยกันแล้วบอกว่าจะไปต่างประเทศ แต่หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อไปเช่นเดียวกัน และในที่สุดญาติได้เดินทางมาที่ อ.จอมทอง แล้วประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดบ้านหลังดังกล่าวเข้าไปดู และพบศพของนางสาววรรณี จึงตั้งข้อสังเกตว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าผู้ชายคนที่รับโทรศัพท์น่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุด้วย ซึ่งอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้โดยเร็วเพื่อคลี่คลายคดีนี้ที่สะเทือนขวัญของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ขณะที่จากการสอบถามทางวัดพระธาตุศรีจอมทองเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้น ทางวัดของดออกความคิดเห็นและให้ข้อมูลใดๆ อย่างไรก็ตามพบกลุ่มแม่ชีที่ปฏิบัติธรรมกับผู้ตายที่วัดพระธาตุศรีจอมทองได้เดินทางมาแสดงความไว้อาลัยกับการเสียชีวิตของผู้ตายที่บริเวณหน้าตึกที่พบศพ โดยต่างบอกตรงกันว่าผู้ตายเป็นคนดี ปฏิบัติธรรม และทำบุญตลอด รวมทั้งทำคุณประโยชน์ให้แก่ทางวัดอย่างมาก แม้จะไม่สนิทสนมกันส่วนตัวแต่รู้สึกเสียใจมากและอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายได้โดยเร็วที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามหาคนสนิทของผู้ตายที่มีลักษณะคล้ายทอม ทราบชื่อว่านางสาวอุ้ม ชาวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งหายตัวไปและยังไม่สามารถติดต่อได้หลังเกิดเหตุ ล่าสุดจากการที่เจ้าหน้าที่ติดต่อพูดคุยกับญาติของนางสาวอุ้มบอกว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้โทร.คุยกัน ซึ่งนางสาวอุ้มบอกว่าอยู่ต่างประเทศ และไม่ได้พบกับนางสาววรรณีนานกว่าสัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบว่านางสาวอุ้มอยู่ต่างประเทศจริงหรือไม่และจะเชิญตัวมาสอบปากคำเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป