นครปฐม - รถบรรทุกน้ำมันหลายหมื่นลิตรพลิกคว่ำกลางถนนเพชรเกษม ใกล้กับสี่แยกตาลคอหวาย นครปฐม มุ่งหน้าราชบุรี ทำเปลวเพลิงลุกท่วมกลางถนน ระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนานกว่า 3 ชั่วโมง เบื้องต้น คาดฝนตกถนนลื่นทำรถพลิกคว่ำ การจราจรลงใต้ติดขัดอย่างหนักเช้านี้
วันนี้ (28 ต.ค.) เวลาประมาณ 05.30 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ 199 ได้รับแจ้งเหตุมีเพลิงไหม้รถบบรรทุกน้ำมัน ที่ถนนเพชรเกษม ใกล้กับสี่แยกตาลคอหวาย ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม จึงประสานกำลังเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงเร่งระดมสกัดเพลิง เข้าพื้นที่โดยด่วน
ในที่เกิดเหตุบนถนนเพชรเกษม ฝั่งมุ่งหน้าเข้าจังหวัดราชบุรี พบรถบรรทุกน้ำมัน ยี่อห้ออีซูซุ ทะเบียน 70-7408 ปทุมธานี หงายแน่นิ่งกลางถนน โดยมีเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอย่างหนัก ความสูงของเปลวเพลิงกว่า 4 เมตร ยาวกว่า 30 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมฉีดสารเคมีเพื่อดับเพลิงนานกว่า 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ มีเปลวไฟได้ปะทุขึ้นมาเป็นระยะ และทำให้รถที่กำลังจะมุ่งหน้าออกไปทางภาคใต้ต้องจอดรอเพราะหวั่นจะเกิดการระเบิดได้ตลอดเวลา
หลังควบคุมเพลิงได้ สอบถามนายสันติ ทองกระโทก อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/23 ซ.สุพาพงษ์ 1 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร คนขับกล่าวว่า รถที่ประสบอุบัติเหตุเป็นของบริษัท แอคชั่น คอนเทเนอร์ จำกัด ตั้งอยู่ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยน้ำมันที่บรรทุกมา ประกอบด้วย น้ำมันดีเซล 4,000 ลิตร น้ำมันอี 85 จำนวน 3,000 ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 จำนวน 4,000 ลิตร พรีเมียม 3,000 ลิตร และบี 20 จำนวน 4,000 ลิตร
ซึ่งได้ออกจากโรงกลั่นปทุมธานี เพื่อจะไปส่งให้ลูกค้าปลายทางที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้ขับมาเป็นปกติตั้งแต่ต้นทาง แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เนื่องจากรถส่ายไปมาบนถนนทั้งๆ ที่ไม่ได้ขับเร็ว จึงพยายามควบคุมรถเข้าเลนซ้าย ด้วยความหนักให้รถเกิดพลิกคว่ำ เมื่อรถนิ่งตนเองได้ปีนลงมาจากรถทางหน้าต่างเพื่อพยายามถอดขั้วแบตเตอรี่ เพราะกลัวจะเกิดประกายไฟแต่ถอดไม่ออก จึงเดินไปวางกรวยท้ายรถป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน แต่ขณะเดินกลับมาที่รถ จู่ๆ ก็มีเปลวไฟลุกตามหลังมาอย่างรวดเร็ว และต้องรีบเเจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่มาทำการดับเพลิงโดยด่วน
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิมพล แต้มรุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บข้อมูลอย่างละเอียด โดยได้สอบปากคำเบื้องต้นคนขับ ก่อนจะประสานให้ตรวจสภาพความพร้อมของคนขับ และเร่งแจ้งให้ทางบริษัทฯ ต้นสังกัดนำรถมาถ่ายน้ำมันที่เหลือออกและเคลื่อนย้ายรถออกจากจุดเกิดเหตุแต่ต้องใช้ความระมัดระวังเพราะยังมีน้ำมันเหลืออีกเป็นจำนวนมาก
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจจะเกิดจากถนนลื่นเนื่องจากช่วงก่อนหน้าได้มีฝนตกลงมาตลอดทั้งคืน ซึ่งอาจจะทำให้ผิวการจราจรลื่น ประกอบกับรถบรรทุกน้ำมันมีน้ำหนักมากจึงทำให้เสียหลักควบคุมรถไม่ได้ แล้วทำให้รถพลิกคว่ำ ส่วนประกายไฟน่าจะเกิดจากน้ำมันที่รั่วไหลออกจากถังมาเจอความร้อนหรือประกายไฟที่เกิดจากรถจึงทำให้เกิดเพลิงไหม้รุนแรง
โดยก่อนที่รถน้ำมันจะประสบอุบัติเหตุได้มีรถบรรทุกสุกรเสียหลักปีนเกาะกลางอยู่ไม่ห่างกัน ซึ่งกำลังรอการกู้รถออกจากที่เกิดเหตุด้วย จึงคาดว่าจุดดังกล่าวน่าจะมีใครทำของที่ลื่นต่อผิวการจราจรตกหล่นบนเส้นทางด้วย ซึ่งจะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเขต 7 เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังทำให้เกิดการจราจรหนาแน่นมากบนถนนเพชรเกษมฝั่งมุ่งหน้าไปจังหวัดราชบุรี เนื่องจากต้องจอดรอการดับเพลิงนานหลายชั่วโมง โดยผู้สัญจรควรหลีกเลี่ยงเส้นทางในช่วงเช้านี้