จันทบุรี - ฝนตกลมแรงทำต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปี ล้มทับหลังคาศาลาตั้งศพวัดวันยาวบน อ.ขลุง จ.จันทบุรี พังเสียหาย ขณะที่ชาวบ้านในเขตตัวเมืองจันทบุรี ประสบปัญหาน้ำท่วมถนน และยังไหลเข้าบ้าน
วันนี้ ( 3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดพายุฝน และลมแรงติดต่อกันหลายชั่วโมงในพื้นที่ อ.ขลุง จ.จันทบุรี จนทำให้ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่หลายคนโอบ อายุกว่า 100 ปี ล้มทับศาลาตั้งศพที่กำลังมีการบำเพ็ญกุศลศพ นายสมัย ทานงาม อดีตคนขับรถบรรทุกเทศบาลเมืองขลุง และได้มีการนิมนต์พระมาสวดอภิธรรมตั้งแต่ช่วงเช้า จนทำให้ญาติสนิทมิตรสหายที่กำลังล้อมวงรับประทานอาหารภายศาลาโรงครัว พากันแตกตื่น
และจากการสอบถาม นายวิญญุ ทานงาม อายุ 31 ปี บุตรชายผู้เสียชีวิตทราบว่า ขณะเกิดเหตุได้เกิดเสียงดังเปรี้ยงคล้ายฟ้าผ่าที่ด้านข้างศาลา จนทำให้ญาติๆ ที่อยู่ด้านในต้องรีบวิ่งออกมาดู กระทั่งพบต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ล้มทับศาลาบริเวณห้องน้ำจนหลังคาทะลุ แต่โชคดีที่ขณะเกิดเหตุไม่มีคนอยู่บริเวณดังกล่าวจึงทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
สอบถาม คุณยายสุนีย์ สาสะเน อายุ 80 ปี กล่าวว่า บ้านของตนเองปลูกติดกับรั้ววัด และได้เห็นต้นโพธิ์ดังกล่าวมานาน และคาดว่าน่าจะมีอายุมากกว่า 100 ปี
เบื้องต้น นายบพิตร พุทธเกสร รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองขลุง ได้นำทีมงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กว่า 20 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่กองช่างนำเลื่อยยนต์ และเครื่องจักรนำซากต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ออกจากพื้นที่เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดกับชาวบ้าน
เขตตัวเมืองจันทบุรี น้ำท่วมถนนเข้าหมู่บ้านทำผู้ใช้รถใช้ถนนเดือดร้อน
ส่วนในเขตเมืองจันทบุรี พบว่า ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังถนนเข้าหมู่บ้านพลับพลา ม.9 ต.พลับพลา อ.เมืองจันทบุรี ระดับความสูง 20-30 เซนติเมตร ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนโดยเฉพาะรถเล็ก และรถจักรยานยนต์ได้รับความเดือดร้อน เช่นเดียวกับบ้านเรือนที่อยู่ 2 ฝั่งถนน ที่ถูกน้ำไหลเข้าท่วม จนต้องนำกระสอบทรายวางปิดกั้นทางน้ำ
ประกอบกับถนนสายจันทบุรี-สระเเก้ว ที่อยู่หน้าทางเข้าถนนของหมู่บ้านพลับพลา ยังมีการก่อสร้างขยายถนน จึงทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดน้ำท่วมขัง
ขณะที่ระดับน้ำในจุดวัดน้ำ 4 จุดหลัก ที่ประกอบด้วย สะพานวัดจันทนาราม
ฝายยาง อ.เมือง ฝายท่าระม้า อ.มะขาม และสะพานกระทิง อ.เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่ถึงจุดวิกฤต และล่าสุด จ.จันทบุรี ได้สั่งการให้ทุกอำเภอเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม