กำแพงเพชร - ตำรวจกำแพงเพชรจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดเครือข่ายเรือนจำกลางกำแพงเพชร ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 48,000 เม็ด ไอซ์ 280.38 กรัม มูลค่านับสิบล้านบาท
วันนี้ (2 สิงหาคม 2561) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร นายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร แถลงข่าวผลการจับกุมยาเสพติดพร้อม พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร, พ.อ.วีระพงษ์ พันธจักร รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงจังหวัดกำแพงเพชรโดยมีของกลางยาบ้าจำนวน 48,000 เม็ด ไอซ์ 280.38 กรัม นอกจากนี้ยังตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียน กม 7303 นครสวรรค์ 1 คัน
ผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ น.ส.ประทุม หรืออึ่ง ศิริขวัญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 286 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองคล้า อำเภอไทรงาม จังหวัดกำแพงเพชร น.ส.พนาพร หรือมัท เกตุสุวรรณ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 238 หมู่ที่ 4 ตำบลอุดมธัญญา อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ เบื้องต้นทั้งสองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าล่อซื้อยาบ้าและทำการจับกุม พร้อมให้การรับสารภาพเพราะจนมุมด้วยหลักฐานจากการล่อซื้อของกลางทั้งหมด
ส่วนผลการจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าภายในเรือนจำกลางกำแพงเพชรมีผู้ต้องหาที่ยังมีเครือข่ายยาเสพติดอยู่นอกเรือนจำสามารถติดต่อซื้อขายยาเสพติดกันได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปจนสามารถสืบทราบเบาะแสได้ว่าผู้ต้องหาทั้งสองคน คือ น.ส.ประทุม หรืออึ่ง ศิริขวัญ และ น.ส.พนาพร หรือมัท เกตุสุวรรณ มีสามีเป็นผู้ต้องหายาเสพติดต้องโทษอยู่ในเรือนจำกลางกำแพงเพชร
โดย น.ส.ประทุม หรืออึ่ง ศิริขวัญ เป็นภรรยาของนักโทษชาย จีรศักดิ์ ส่วน น.ส.พนาพร หรือมัท เกตุสุวรรณ เป็นภรรยาของนักโทษชาย เสกสรร ที่มีของกลางยาบ้าและไอซ์ซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก นักโทษชายทั้งสองจึงร่วมกันวางแผนให้ภรรยานำยาเสพติดที่ฝังดินซุกซ่อนไว้ไปจำหน่าย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการวางแผนล่อซื้อยาเสพติดจำนวน 2 มัด มัดละ 2,000 เม็ด รวม 4,000 เม็ด พร้อมไอซ์อีก 280.38 กรัม และถูกจับกุมตัวได้ในที่สุดในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในตัวเมืองกำแพงเพชร พร้อมกับให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาและส่งตัวให้ พ.ต.ท.ศุภศักดิ์ พิลา รองผู้กำกับสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรงามนำตัวไปขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายธัชชัย สีสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า จากมาตรการการปราบปรามยาเสพติดให้เป็นวาระสำคัญจังหวัด จึงมีผลของการออกกวาดล้าง สืบหาและจับกุมผู้ค้าผู้เสพอย่างต่อเนื่อง สำหรับยาบ้าและยาไอซ์ล็อตนี้ถ้านำไปจำหน่ายจะมีมูลค่าเกือบสิบล้านบาท และเพื่อให้ยาเสพติดหมดไปถ้าใครมีเบาะแสให้แจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรม โดยไม่ต้องลงชื่อเพื่อดำเนินการปราบปรามต่อไป
