MGR Online - บช.ภ.1 แถลงผลจับกุมแก๊งยาเสพติดรายใหญ่ ขนจากภาคเหนือลงพื้นที่ภาคกลาง ใช้สิบล้อมีรถกระบะขับดูต้นทาง ตะลึงยาบ้า 58 กระสอบ-ไอซ์ 700 โล
วันนี้ (27 ก.ค.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.1 บก.สส.ภ.1 และ เจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.1 ร่วมแถลงผลการจับกุม นายจรัญ ก๋านนท์ อายุ 43 ปี, นางศรีคำ ปินตา อายุ 38 ปี สามีภรรยาชาว จ.น่าน และนายชัน สวัสดี อายุ 47 ปี ชาว จ.ระยอง พร้อมของกลางยาบ้า 11,600,000 เม็ด ไอซ์ 700 กก. รถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ทะเบียน กว 7912 เชียงราย รถบรรทุกยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 70-1838 พะเยา โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Telego 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ LAVA 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Wiko 1 เครื่อง
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.ค. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือลงพื้นที่ภาคกลาง จึงได้สืบสวนจนทราบว่าผู้ลำเลียงยาเสพติดได้ขับรถผ่าน จ.พะเยา โดยมีรถกระบะขับนำคอยดูต้นทางเพื่อตรวจสอบด่านของตำรวจ ให้รถบรรทุกที่ขนยาเสพติดจำนวนมาก กระทั่งวานนี้ (26 ก.ค.) พบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีขาว และรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อฮีโน่ คันของกลางดังกล่าวผ่านด่านจุดตรวจพบว่ามีลักษณะต้องสงสัย จึงควบคุมตัวไปสอบสวนที่ บก.สส.ภ.จว.สิงห์บุรี
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเผยว่า จากการตรวจค้นรถบรรทุกสิบล้อคันดังกล่าว พบยาบ้าจำนวน 58 กระสอบ รวม 11,600,000 เม็ด และไอซ์บรรจุถุงพลาสติก รวมกว่า 700 กิโลกรัม ซุกซ่อนมากับเม็ดข้าวโพดที่ทับอยู่บริเวณหลังรถบรรทุก โดยมีนายจรัญเป็นคนขับ และนางศรีคำ ภรรยานั่งมาด้วยกัน ส่วนรถกระบะมีนายชันเป็นผู้ขับ ภายในรถไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ พร้อมยึดยาบ้ากับไอซ์ไว้เป็นของกลางทั้งหมด ทั้งนี้ถือเป็นการจับกุมเครือข่ายใหญ่ที่ตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมได้ หลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลติดตามหัวหน้าขบวนการและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.สุวัฒน์กล่าวว่า คดีดังกล่าวรถยนต์กระบะทำหน้าที่เป็นรถนำ โดยแต่ละครั้งทิ้งช่วงรถบรรทุกประมาณ 5-30 กม. เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าทำลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง รถทั้งสองคันก็ได้มาจากการค้ายาเสพติด โดยนายชันซึ่งทำหน้าที่ขับรถกระบะนำได้ค่าจ้างขนยาเสพติดล็อตนี้จำนวน 600,000 บาท ส่วนนายจรัญและนางศรีคำ สามีภรรยาได้ 700,000 บาท สำหรับวิธีการลำเลียงนั้นเมื่อรถกระบะที่ขับนำเห็นด่านของตำรวจก็จะขับเลยด่าน โดยส่งสัญญาณให้รถบรรทุกหาที่นอนพัก รอจนกว่าด่านตรวจจะเลิก บางครั้งก็รอให้ฝนตกก่อน เพราะหากเจ้าหน้าที่ตั้งด่านตรวจก็อาจเกิดอุบัติเหตุกับประชาชน อีกทั้งยังมีการศึกษาเส้นทางว่าจุดใดน่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะหลบเลี่ยงเส้นทางนั้นๆ