เลย - ผบ.มทบ.28 เอาจริง แจ้งจับเพจดัง “ล่า” ทำจังหวัดเลย เสียหายหนัก หลังโพสต์ อ้างจังหวัดเลยเป็นทางผ่านยาบ้า 11 ล้านเม็ด ไอซ์กว่า 600 กิโลกรัม ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐไม่รู้ไม่เห็นกับการขนยาเสพติดถึง 9 ครั้ง
หลังจากเพจดัง “ล่า” โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2561 ข้อความว่า ยาบ้า 57 กระสอบ 11,800,000 เม็ด ยาไอซ์ 27 กระสอบ 675 กิโลกรัม สะท้านโลกา!! นึกว่าขนของยังชีพไปช่วย สปป.ลาว ขนแบบนี้มาแล้ว 8 ครั้ง คิดดูว่ากี่ 100 ล้านเม็ด เยอะขนาดนี้รอดเจ้าหน้าที่ไปได้ ตลอดทางจาก อ.วังสะพุง จ.เลย ทั้งด่านตรวจจมูกคน จมูกหมา รอดมาได้ ทางโล่ง มาจับได้ที่สิงห์บุรี ครั้งนี้ครั้งที่ 9 ใส่รถสิบล้อขนมา มีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์นำขบวนแค่คันเดียว ขนแบบนี้มา 8 ครั้ง เเต่ละครั้งอย่างต่ำ 11 ล้านเม็ด รอดเจ้าหน้าที่ถึง 8 ครั้ง?
มี 2 อย่าง คือ 1.เจ้าหน้าที่รู้ เพราะ... 2.เจ้าหน้าที่ไม่รู้ เพราะ... วิเคราะห์ เติมคำในช่วงว่างกันได้ก่อน วันนี้ 11 โมงแถลงข่าว รอฟัง นอกจากยึดของกลางยาบ้า ยาไอซ์ รถกระบะ ผู้ต้องหา 3 คน ได้อะไรอีกไหม จับใหญ่ไฟลุกขนาดนี้ เรามี IG แล้วนะ ติดตามได้ที่ @laa.2018” ซึ่งข้อความดังกล่าว ปฏิเสธไม่ได้ว่า สร้างความเสียหายให้กับจังหวัดเลย รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่
ล่าสุด วันนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. กองบัญชาการควบคุม กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเลย โดย พลตรี ชาญชัย เอมอ่อน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 28 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุดพิเศษ เอกศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย, พ.อ.สมศักดิ์ แจ่มพันธ์ รอง ผอ.รมน.จังหวัดเลย ได้ออกแถลงข่าว ว่า ตามที่ตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจจังหวัดสิงห์บุรี ได้จับกุมยาเสพติดลอตใหญ่เป็นยาบ้า จำนวน 11 ล้านกว่าเม็ด และยาไอซ์ จำนวน 600 กิโลกรัม ซุกซ่อนในรถบรรทุกขนข้าวโพดที่บริเวณถนนสายเอเชีย เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 นั้น
มีการกระจ่ายข่าวทางสื่อต่างๆ ที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ว่า ยาเสพติดดังกล่าวใช้จังหวัดเลยเป็นเส้นทางผ่านเข้า แล้วจึงลำเลียงต่อไปจนถูกจับกุม ทั้งนี้ หน่วยขอชี้แจงว่า ในห้วงที่ผ่านมา หน่วยได้บูรณาการกับทุกภาคส่วนในการเข้มงวด การลาดตระเวน และการเฝ้าตรวจตลอดแนวชายแดนในพื้นที่จังหวัดเลย มีการตรวจยึดจับกุมอย่างต่อเนื่อง หน่วยได้ตรวจสอบกับหน่วยข่าวในพื้นที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4 ซึ่งยาเสพติดจำนวนดังกล่าวไม่ปรากฏว่าใช้พื้นที่จังหวัดเลยเป็นเส้นทางผ่านแต่อย่างใด
จากนั้น ได้ให้ทาง พ.อ.ทินพันธ์ ปากแก้ว หัวหน้ากลุ่มอำนวยการและงานบริหารงาน กอ.รมน.จว.เลย
เข้าไปแจ้งความดำเนินคดี กับเพจ “ล่า” ที่ สภ.เมืองเลย เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างในการกระทำเรื่องนี้ และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย จะเรียกเจ้าของเพจเข้ามาพบเพื่อปรับความเข้าใจและตักเตือน และดำเนินคดีต่อไป