จากกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการแชร์โพสต์เรื่องราวและคลิปวิดีโอเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นที่คาดว่าน่าจะเป็นชาวต่างด้าวก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน ทั้งชกต่อยและมีการใช้อาวุธทำร้ายกันบริเวณลานประตูท่าแพ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ช่วงคืนวันที่ 23 ก.ค. 61 โดยไม่สนใจประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากที่กำลังพักผ่อนหย่อนใจอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งต่างตื่นตกใจอย่างมาก ทั้งนี้ ต่างวิพากษ์วิจารณ์ตำหนิการกระทำของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวอย่างหนัก เพราะเป็นการทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของเมืองเชียงใหม่ พร้อมกันนี้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการกวาดล้างวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเช่นนี้เพื่อป้องกันการก่อเหตุอีก ซึ่งจะทำลายความสงบสุขของบ้านเมืองและบรรยากาศการท่องเที่ยว
หลังเกิดเหตุ พันตำรวจเอก ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ลงพื้นที่เร่งตรวจสอบหาตัวผู้ที่ก่อเหตุที่ปรากฏในคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นผู้ใดหรือกลุ่มใดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งต่อมาช่วงเย็นวันที่ 24 ก.ค. 61 เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจนพบตัววัยรุ่น 4 คน อายุระหว่าง 15-19 ปี ที่ร้านดอกไม้แห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ เนื่องจากสืบทราบและแกะรอยจากกล้องวงจรปิดจนทราบว่าวัยรุ่นในคลิปเป็นกลุ่มที่มีชื่อว่า “แก๊งเดอะซัน” และมักจะรวมตัวมั่วสุมกันบริเวณตลาดดอกไม้ จากนั้นควบคุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ
พันตำรวจเอก ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการสอบสวนวัยรุ่นทั้ง 4 คน ได้แก่ นายไพศาล พุ่มโต อายุ 19 ปี ส่วนอีก 3 คนเป็นเยาวชน ได้แก่ นายนนท์, นายเพชร และนายธิติ ซึ่งทั้งหมดเป็นคนไทย ยกเว้นนายธิติที่เป็นชาวต่างด้าว โดยทั้งหมดยอมรับว่าก่อเหตุเนื่องจากก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เที่ยวเตร่รอบเมืองเชียงใหม่ ถึงบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุพบคู่กรณีเป็นวัยรุ่นต่างด้าวที่มีจำนวนมากกว่าตะโกนท้าทาย จึงได้จอดรถแล้วลงไปชกต่อยตามที่ปรากฏในคลิปที่มีการเผยแพร่ จากนั้นได้ขับรถกลับที่พัก กระทั่งต่อมาทราบว่ากลายเป็นข่าวใหญ่และถูกติดตามจับกุมตัวได้
ขณะที่หลังการสอบสวนแล้วเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหานายนนท์ นายเพชร และนายธิติ ว่าก่อความเดือดร้อนวุ่นวายในที่สาธารณะ ส่วนนายไพศาลถูกแจ้งข้อกล่าวหาขับขี่รถประมาทหวาดเสียวและขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากไม่ได้ร่วมชกต่อยด้วย แต่เป็นผู้ขับขี่พาหลบหนี นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังจะทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายด้วย หากพบจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ส่วนการทำร้ายร่างกายนั้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเนื่องจากไม่มีเจ้าทุกข์ โดยหลังการสอบสวนแล้ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ยังได้นำตัววัยรุ่นทั้ง 4 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณลานประตูท่าแพด้วยก่อนที่จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
