ฉะเชิงเทรา - ตร.นครบาล บุกทลายแหล่งชำแหละรถยนต์รายใหญ่ย่านบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา รวบ 3 พ่อลูกทำงานเป็นทีม ทั้งเช่าบ้านหรูบังหน้า โจรกรรมรถกระบะยี่ห้อดัง ชำแหละชิ้นส่วนอะไหล่ พบซากรถยนต์ถูกชำแหละแล้ว 9 คัน
วันนี้ (23 ก.ค.) ตำรวจนครบาล นำโดย พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง บบ.ช.น. และ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย บุกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 132 ม.7 ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางโค้งท่าไข่ ริมถนนสิริโสธร (314) ฉะเชิงเทรา-บางปะกง หลังได้รับแจ้งว่า เป็นแหล่งชำแหละรถยนต์รายใหญ่ในเขตบางปะกง โดยมี พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร รอง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง เข้าร่วม
จากการตรวจค้นพบของกลางเป็นชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์กระบะยี่ห้อดังจำนวนมาก และยังพบซากรถยนต์กระบะที่ถูกชำแหละแล้ว 5 คัน และที่ยังไม่ถูกแยกชิ้นส่วนอีก 4 คัน โดยได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายธีรภัทร ถิรธนพาณิชย์ อายุ 58 ปี ชาว จ.นครปฐม นายจิรยุทธ ถิรธนพาณิชย์ อายุ 32 ปี และนายสงกรานต์ ถิรธนพาณิชย์ อายุ 18 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นพ่อลูกกัน
นอกจากนั้น ยังพบภรรยา และบุตรสาวของ นายธีรภัทร และนายจิรยุทธ ที่อยู่ภายในบ้านอีก 3 ราย ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ตระเวนโจรกรรมรถยนต์มาจาก จ.นครปฐม สมุทรปราการ ด้านฝั่ง อ.พระประแดง และกรุงเทพฯ รวมทั้งย่านธนบุรี เพื่อนำมาชำแหละที่บ้านหลังดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่โจรกรรมแต่เพียงรถยนต์กระบะยี่ห้อดังเพียงยี่ห้อเดียว เพราะระบบกุญแจล็อกสามารถทำลายได้ง่าย และจะเลือกเฉพาะรถที่ไม่มีระบบสัญญาณกันขโมย หรือระบบล็อกคลัตช์ ล็อกเกียร์เท่านั้น
ด้าน พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้เพิ่งหลบหนีการประกันตัวจากศาลอาญาธนบุรี ในคดีโจรกรรมรถ เมื่อปี 2560 และเข้ามาเช่าบ้านหรูหลังดังกล่าวได้เพียง 3 เดือน ก่อนจะหวนกลับไปก่อเหตุโจรกรรมรถจากพื้นที่นครบาล ตำรวจภูธรภาค 1 และ ภาค 7 มาชำแหละชิ้นส่วนขาย กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลขยายผลติดตามมาจับกุมตัวได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการบอกเล่าจากชาวบ้านที่อยู่ข้างเคียง ว่า เดิมบ้านหรูหลังนี้เคยเป็นของ นางโก้ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจวิ่งรถขนส่งน้ำทะเลไปขายให้แก่บ่อเลี้ยงกุ้ง และปลากะพง ต่อมา ป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์ และเสียชีวิตด้วยโรคชรา จึงไม่มีใครเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวอีก เนื่องจากบุตรหลานได้แยกย้ายไปอยู่ที่อื่น กระทั่งมีการติดป้ายประกาศขายบ้าน เนื้อที่ประมาณ 3 งาน ในราคาหลายล้านบาทเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ยังไม่มีใครซื้อ
กระทั่งผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าเข้ามาเช่าอาศัยอยู่ โดยที่ชาวบ้านไม่ทราบว่าคนเหล่านี้ทำอาชีพอะไร เพราะภายในบ้านมีการทำรั้วปิดกั้นโดยรอบอย่างมิดชิด จนตำรวจเข้ามาบุกทลาย จึงรู้ว่าเป็นแหล่งชำแหละรถยนต์รายใหญ่ในพื้นที่
หน.ศูนย์ปราบปรามโจรกรรมรถยนต์ฯ เตือนเจ้าของรถอีซูซุ ระวังเป็นพิเศษ
และล่าสุด พล.ต.อ.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหัวหน้าศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์รถจักรยานยนต์ ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งโจรกรรมรถยนต์รายใหญ่ ที่ตระเวนก่อเหตุทั้งในเขตนครบาล ตำรวจภูธรภาค 1 และ ภาค 7 ก่อนนำข้ามฝั่งมาชำแหละในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
โดยบอกว่า ตำรวจนครบาล ได้แกะรอยคนร้าย หลังมีรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ หายจากในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวนมาก กระทั่งพบแหล่งที่คนร้ายนำรถมาชำแหละจึงไเข้าตรวจค้นภายในบ้าน จนพบของกลางจำนวนมาก
จึงอยากฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่า คนร้ายมุ่งโจรกรรมเฉพาะรถยี่ห้ออีซูซุ ประเภทดีแม็ก และไฮแลนเดอร์ ที่ไม่ได้มีการล็อกพิเศษ คือ ไม่ได้ล็อกเกียร์ ล็อกพวงมาลัย หรือล็อกคลัช จึงขอให้เจ้าของรถเป้าหมายระมัดระวังทรัพย์สินของตนเองเป็นพิเศษด้วย