สุรินทร์ - ผู้ใหญ่บ้านเมืองช้างแจ้งตำรวจพบถุงดำใส่อาวุธสงครามซุกข้างทางท้ายหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง พร้อมอีโอดีรุดตรวจ ผงะมีทั้งปืนเอ็ม 16 ลูกระเบิดสังหาร กระสุน เอ็ม 79 และ กระสุนปืนจำนวนมาก ตำรวจเร่งหาเจ้าของ
วันนี้ (22 ก.ค.) นายณรงค์ วิภาหัส ผู้ใหญ่บ้านหลักวอ หมู่ที่ 11 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหลักวอ ได้แจ้ง พ.ต.ต.สหภาพ จันทหง่อม พนักงานสอบสวนเวร ร.ต.อ.อุทัย ยอดเยี่ยม รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองสุรินทร์ ว่า เมื่อช่วงเช้าระหว่างออกตรวจพื้นที่รอบหมู่บ้านเพื่อสำรวจและป้องกันการลักลอบทิ้งขยะ และร่วมวางแผนการจัดเก็บขยะของหมู่บ้าน ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเส้นทางท้ายหมู่บ้านใกล้ริมคลองชลประทานได้พบถุงขยะสีดำถูกนำมาซุกซ่อนไว้ จึงจอดรถและลงไปเปิดดู พบภายในมีถุงสีขาวบรรจุน้ำแข็งอีกจำนวน 2 ถุง เมื่อเปิดดูจึงพบอาวุธปืน เอ็ม 16 และคาดว่าจะมีอาวุธสงครามอีกหลายรายการอยู่ในถุงทั้ง 2 ใบ
หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองสุรินทร์ ทราบและเดินทางไปร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายบรรลุ สุวรรณดี ปลัดอำเภอเมืองสุรินทร์ นายพุธฒิ วรรณูปถัมภ์ กำนันตำบลนอกเมือง และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอีโอดี ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เดินทางเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยบรรจุอยู่ภายในถุงดังกล่าวด้วย
เมื่อเจ้าหน้าที่อีโอดีนำวัตถุต้องสงสัยภายในถุงออกมาพบว่าเป็นพานท้ายปืน เอ็ม 16 1 กระบอก, ปืนเล็กยาว 1 กระบอก, กล่องใส่กระสุนปืน 2 กล่อง, ซองบรรจุกระสุน, กระสุนปืน ขนาด 80 มิลลิเมตร 70 ลูก, กระสุนปืนนาโต้ และกระสุนปืนชนิดอื่นๆ อีกกว่า 50 ลูก ส่วนถุงน้ำแข็งสีขาวอีก 1 ใบ ภายในบรรจุระเบิดขว้างแบบสังหาร ใช้เทปกาวสีดำรัดไว้อย่างดี จำนวน 6 ลูก ซึ่งเป็นระเบิดใช้การได้ และกระสุนปืน แบบเอ็ม 79 อีก 2 ลูก เจ้าหน้าที่อีโอดี จึงนำอาวุธสงครามทั้งหมดไปตรวจสอบอย่างละเอียด รวมทั้งตรวจลายนิ้วมือแฝง
พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ กล่าวว่า ในช่วงนี้จังหวัดสุรินทร์ ทั้งฝ่ายตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้มีการเพิ่มความเข้มงวดในการออกตรวจตรา ตั้งจุดตรวจทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน เพราะเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวทำบุญเข้าพรรษาและงานแห่เทียนบนหลังช้างที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วัน ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวร่วมงานเป็นจำนวนมาก และช่วงนี้มีบุคคลสำคัญหลายคณะเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้มีการวางแผนรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มบุคคลหรือคนที่มีสิ่งผิดกฎหมายเกิดความเกรงกลัวเจ้าหน้าที่ตรวจพบและมีความผิด จึงนำอาวุธสงครามดังกล่าวมาทิ้งไว้ในป่าข้างทาง ซึ่งทางตำรวจจะได้สืบสวนหาผู้กระทำความผิดหรือเจ้าของอาวุธสงครามมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป