กาฬสินธุ์ - ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจครอบครัวน้องสโนว์ เหยื่อผู้ใหญ่บ้านหื่นฆ่าข่มขืน หลังทราบข่าวศาลอุทธรณ์ยืนคำพิพากษาประหารชีวิต ขณะที่แม่จุดธูปบอกลูกสาวหลังสู้คดีมายาวนานกว่า 2 ปี 7 เดือน
หลังจากศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นประหารชีวิต นายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบถีบรถจักรยานยนต์ของ น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ อายุ 18 ปี หรือน้องสโนว์ ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากโรงเรียนแล้วพยายามข่มขืน บริเวณทางเข้าบ้านโนนเมือง ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ แต่เหยื่อต่อสู้ขัดขืนจนถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อ 23 ธันวาคม 2558
ล่าสุดวันนี้ (18 ก.ค. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 94 บ้านโนนเมือง ม.12 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของน้องสโนว์ ญาติและเพื่อนบ้านต่างเดินทางมาให้กำลังใจนายกฤษณ์-นางลำใย พลประสิทธิ์ พ่อแม่น้องสโนว์ หลังทราบข่าวที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีนี้ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการที่ผู้ต้องหารับโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต เพราะก่อเหตุอุกอาจ เป็นคดีสะเทือนขวัญ ทั้งไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับครอบครัวใครอีก
หลังเข้ารับฟังการอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางลำใย พลประสิทธิ์ แม่น้องสโนว์ ได้จุดธูปบอกข่าวกับดวงวิญญาณลูกสาวต่อหน้าภาพถ่ายที่ยังติดอยู่ตามฝาผนังบ้านและตู้เสื้อผ้า เพื่อบอกความคืบหน้าในการสู้คดีของครอบครัวมายาวนานกว่า 2 ปี 7 เดือน หรือกว่า 935 วันหลังเกิดเหตุมาตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2558 อีกทั้งยังเข้าไปในเฟซบุ๊กของลูกสาวเพื่อขอบคุณทุกๆ คนที่ให้กำลังใจ
นางลำใย พลประสิทธิ์ แม่น้องสโนว์ กล่าวว่า ตั้งแต่ลูกสาวจากไปครอบครัวยืนยันที่จะสู้ เพื่อน้องสโนว์อย่างถึงที่สุด เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งน้องสโนว์เองก่อนเสียชีวิตก็ยังสู้เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง กระทั่งวันนี้มีความคืบหน้าของคดีถึงขั้นตอนของศาลอุทธรณ์แล้ว ทำให้ครอบครัวพลประสิทธิ์มีกำลังใจและเข้มแข็งยิ่งขึ้น
“ในฐานะผู้เป็นแม่ขอให้ลูกสาวไปสู่สุคติสรวงสวรรค์ ชาติหน้าขอให้น้องสโนว์กลับมาเกิดเป็นลูกแม่อีก ส่วนของคดี กรรมใดที่ใครก่อ คงจะต้องได้รับผลกรรมนั้น ไม่ต้องถึงชาติหน้า ซึ่งเป็นบทลงโทษของกฎหมายก็ว่ากันไปตามกระบวนการ แต่ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ให้เกิดกับครอบครัวฉันเป็นครั้งสุดท้าย” นางลำใยกล่าว
ด้านนางสุพัต ศรีรักษา อายุ 51 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า หลังจากเหตุน้องสโนว์ถูกทำร้ายและเสียชีวิต เข้าใจถึงหัวอกของคนเป็นแม่ต้องสูญเสียลูกอันเป็นที่รักทั้งที่เด็กจะมีอนาคตสดใสวันข้างหน้า เพราะน้องสโนว์กำลังจะไปเรียนต่อพยาบาลเพื่อช่วยเหลือคน แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ตนในฐานะเพื่อนบ้านรู้สึกช็อก จึงเข้ามาเป็นเพื่อนปลอบใจ ให้กำลังใจครอบครัวนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาได้รับโทษครั้งนี้ถือว่าเป็นไปตามกรรมที่ก่อไว้ต้องได้รับผลกรรมนั้น ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้เหตุการณ์เกิดขึ้นกับครอบครัวใดอีก