มหาสารคาม - ศึกษาธิการ จ.มหาสารคามแจงกรณีครูทำปฏิญญา เบี้ยวหนี้ ทำได้แต่ไม่เหมาะสม ชี้หากไม่ส่งเงินกู้ผิดกฎหมาย เผยครูที่เคลื่อนไหวส่วนใหญ่เป็นครูเกษียณเหตุเงินบำนาญรับไม่พอจ่าย ด้านครูที่หนี้เข้าขั้นวิกฤตไม่ถึง 5%
ภายหลังจากที่โลกออนไลน์แชร์คลิปวิดีโอกลุ่มครูมหาสารคามแสดงพลัง “ประกาศปฏิญญามหาสารคาม” ประเด็นหลัก ขอให้รัฐบาลและธนาคารออมสินพักหนี้สิน โครงการสวัสดิการเงินการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ทุกโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ประเด็นต่อมา ลูกหนี้ ช.พ.ค.จำนวน 450,000 คน จะยุติการชำระหนี้กับธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมต่อการกระทำดังกล่าวเป็นวงกว้าง
ล่าสุดวันนี้ (17 ก.ค. 61) ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดมหาสารคาม ดร.ครรชิต วรรณชา ศึกษาธิการจังหวัดมหาสารคาม ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีครูออกมาประกาศปฏิญญาขอยุติการชำระหนี้ ช.พ.ค.ให้กับธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไปนั้น ตนมองว่ากลุ่มครูออกมาเคลื่อนไหวสามารถทำได้ ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ส่วนตัวมองว่าไม่เหมาะสม กลุ่มครูที่ออกมาเคลื่อนไหวส่วนใหญ่พบว่าเป็นข้าราชการเกษียณ รายได้จากเงินบำนาญอาจจะไม่พอกับค่าใช้จ่าย ซึ่งตนเองเป็นแค่ผู้รับผิดชอบพื้นที่ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชา ภายหลังจากทราบข่าวตนได้มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบ ทั้ง ผอ.กลุ่ม และนิติกร ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและจะรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
ตนเคยรับตำแหน่ง ผอ.เขตการศึกษามาก่อนที่จะมารับตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัด ที่ผ่านมาเคยทำบันทึกข้อตกลง หรือ MOU กับธนาคารออมสินและ สกสค.ในแต่ละจังหวัดว่า หลังจากยื่นกู้และได้รับเงินตามสิทธิแล้ว พันธะที่ต้องดำเนินการคือเรื่องหนี้สิน ก่อนหน้านั้นพี่น้องครูอาจจะยังไม่เดือดร้อน แต่หลังจากเกษียณแล้วเงินที่หักจ่ายแต่ละเดือน อาจจะมากจนไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย แต่ทราบว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดของแต่ละกรมได้ช่วยประนีประนอมไกล่เกลี่ยเรื่องนี้มาโดยตลอด
ที่ผ่านมาเคยมีการพูดคุยกันทราบว่า 1. จะมีการคืนส่วนต่างที่เคยให้กับหน่วยงานที่หัก ให้กับสมาชิกที่มีประวัติการส่งเงินดี 2. เรื่องดอกเบี้ยได้พูดคุยกัน มีการปรับโครงสร้างหนี้ แต่รายละเอียดต่างๆ ออกมาเป็นข่าวไม่นานก็เงียบหายไป
สำหรับจังหวัดมหาสารคาม ถือว่าพี่น้องเพื่อนครูให้ความร่วมมือดี ยินยอมให้หักเงิน ปัญหาเช่นนี้ถามว่าผิดวินัยหรือไม่ ในเชิงกฎหมายถือว่ายังไม่ผิด เพราะจากข่าวที่ออกไปถือว่าเป็นปฏิญญา แต่หากไม่ส่งเงิน ซึ่งทางธนาคารออมสิน หรือ สกสค.มีข้อกฎหมายระบุไว้ในสัญญาอยู่แล้ว หากผู้กู้ไม่ส่งเงินต่อ จนเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย จนศาลสูงสุดพิพากษาว่าเป็นบุคคลล้มละลาย ถือว่าเข้าสู่กระบวนการทางวินัยว่าด้วย พ.ร.บ.ระเบียบครูฉบับปัจจุบัน
แก้ไขเพิ่มเติม คือคุณสมบัติของครูและบุคลากรทางการศึกษานั้นจะต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลาย จะเข้าสู่กระบวนการทางวินัย จะต้องช่วยกันหาทางออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพลักษณ์ของครูที่สื่อออกไป เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ ตนมองว่ายังมีอีกหลายทางออก เฉพาะจังหวัดมหาสารคาม ข้อมูลข้าราชการครูที่มีหนี้อยู่ในภาวะวิกฤต ถือว่ามีไม่มาก ไม่น่าจะถึง 5% ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการเกษียณ เพราะเงินบำนาญน้อย