ลำพูน - ส่อเป็นเรื่อง..เซียนไฮโลงานศพรวมตัวโวยหน้าโรงพักภูธรนอกตัวเมืองลำพูน อ้างถูกจับแยกกลุ่มต่อรองรีดเงินรวม 3.6 หมื่นแลกเปลี่ยนข้อหาจากเล่นไฮโลเป็นไพ่รัมมี-ลดจำนวนผู้ต้องหา ขู่ร้องผู้บังคับบัญชาก่อนได้คืนแล้ว 1.5 หมื่น
เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. คืนที่ผ่านมา (12 ก.ค.) ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นที่ศาลาหน้าสถานีตำรวจแห่งหนึ่งใน จ.ลำพูน หลังมีตำรวจอ้างตัวว่าอยู่ชุด 5 กลุ่มงานด้านการข่าวฯ นำกำลังจำนวน 12 นายบุกเข้าจับกุมเซียนพนันไฮโลที่กำลังตั้งวงแทงพนันลูกเต๋าในงานศพในอำเภอรอบนอกของ จ.ลำพูนแห่งหนึ่ง ทำให้เซียนพนันวงแตกฮือพากันวิ่งหลบหนี แต่สุดท้ายก็ถูกจับกุมได้กว่า 10 ราย
ระหว่างการจับกุมมีชายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่บางคนได้ทำการยึดกระเป๋าเซียนพนันไว้เป็นของกลาง ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดี เมื่อผู้ที่ถูกจับกุมขอกระเป๋าคืนปรากฏว่ากระเป๋าเงินของนางน้อย ที่มีเงินสดอยู่ในกระเป๋าประมาณ 28,000 บาท และเอกสารรวมถึงโทรศัพท์มือถือ ทุกอย่างอยู่ครบยกเว้นเงินในกระเป๋าเหลืออยู่พันกว่าบาท จึงถามเจ้าหน้าที่ว่าเงินตนเองหายไปไหน ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่รู้อย่ามาพูดเดี๋ยวจะเจอข้อหาหมิ่นเจ้าพนักงาน พร้อมยึดเงินในกระเป๋าที่เหลืออีกพันกว่าบาทเป็นของกลางไปอีก
ต่อมาได้มีคนที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งทำการต่อรองการจับกุมจาก 10 กว่าคน ให้เหลือ 4 คน ได้แก่ นางจันณัฐพร อายุ 66 ปี, นางสาวก้อนทอง อายุ 49 ปี, นางสาวเพชรบูรณ์ อายุ 60 ปี และนางกัญจนา อายุ 62 ปี (นามสมมติทั้งหมด) และเปลี่ยนจากลักลอบเล่นการพนันไฮโล ให้เป็นการจับกุมการเล่นการพนันไพ่รัมมีแทน แต่ต้องจ่ายเงินจำนวน 30,000 บาท ซึ่งได้มีการต่อรองเหลือ 21,000 บาท ก่อนนางนา เจ้าของบ่อน จะได้จ่ายเงินไปเรียบร้อย
ขณะเดียวกันก็มีคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่อีกคน ไปติดต่อกลุ่มเซียนพนันไฮโลที่อยู่ด้านล่างว่า หากต้องการให้ช่วยโดยการปล่อยตัว และจะไม่มีการบันทึกจับกุมใดๆ ต้องจ่ายเงินจำนวน 30,000 บาท และให้ช่วยบอกสื่อให้กลับออกไปก่อน โดยมีการเสนอเงินให้ผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งเพื่อให้ออกจากโรงพักไปก่อนด้วย ซึ่งกลุ่มนี้ได้ต่อรองกันจนเหลือ 15,000 บาท
แต่ผู้ต้องหาทั้งสองกลุ่มยังไม่รู้ว่ามีการแยกต่อรองรับเงิน เมื่อทั้งสองกลุ่มลงมาพบและพูดคุยกันจึงรู้ว่าถูกคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่บางคนเอาเงินไปรวมทั้งหมด 36,000 บาท จึงพากันโวยวายขึ้น มีการเรียกอดีตนายตำรวจที่เป็นนายกเทศมนตรีฯ ในพื้นที่มาช่วยเคลียร์ให้ แต่ถูกยื้อเวลา โดยอ้างว่าต้องให้ผู้สื่อข่าวกลับไปก่อน
จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 5 ชั่วโมง ถึงเวลาประมาณ 23.30 น. กลุ่มชาวบ้านที่ถูกจับโวยวายต่อว่าหากไม่ยอมคืนเงินให้จะไปร้องเรียนผู้บังคับบัญชา ต่อมาจึงมีคนอ้างเป็นนายตำรวจยศร้อยตำรวจโทนำเงินมาคืนให้จำนวน 15,000 บาท ส่วนที่เหลือจะคืนให้ในวันถัดไป ชาวบ้านจึงพากันกลับ และกล่าวว่าหลังจากขึ้นศาลแล้วจะไปร้องเรียนผู้บัญชาการตำรวจให้ทราบถึงพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาต่อไป