ศูนย์ข่าวศรีราชา - เอาอีก !! บ้านสุขาวดี..ปูพรมบันไดทับทางเท้าสาธารณะ เบื้องต้น เมืองพัทยา สั่งรื้อถอนแล้ว ก่อนประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการตามกฏกหมาย
วันนี้ ( 5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่า บริเวณทางเท้าสาธารณะซึ่งอยู่ติดทะเลหลังบ้านสุขาวดี ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่มีความยาวนับร้อยเมตร ที่เมืองพัทยา ได้ดำเนินการจัดสร้างเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการสัญจรไปมา ได้มีผู้ประกอบการนำหญ้าเทียมเข้ามาปูทับทางเท้าสาธารณะ พร้อมทำบันไดขึ้นลงกินพื้นที่สาธารณะหลายจุด และประชาชนในพื้นที่ยังพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม และตั้งข้อสังเกตว่าขัดต่อข้อกฎหมายหรือไม่นั้น
ล่าสุด นายวิเชียร พงษ์พานิช รองนายกเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า ถนนสาธารณะซึ่งเมืองพัทยา ได้จัดสรรงบประมาณจัดสร้าง ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้ประ โยชน์ในการสัญจรนั้น ได้อนุญาตให้ใช้สำหรับการเดินพักผ่อนและออกกำลังกายเท่านั้น โดยที่ผู้ประกอบการไม่สามารถนำไปใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัวได้
“หลังได้รับรายงานว่ามีผู้ประกอบการนำพื้นหญ้าเทียมมาปูทับ กินพื้นที่จุดขึ้นลงหลายจุด ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ สำนักการช่าง ลงพื้นที่สำรวจเพื่อรายงานข้อเท็จจริง ซึ่งก็พบว่าเป็นไปตามที่ได้รับแจ้ง ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งเรื่องไปยังสำนักเทศกิจ ที่มีหน้าที่หลักในการดูแลทางเท้าสาธารณะเพื่อขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการรายดังกล่าว ให้รื้อถอนสิ่งลุกล้ำออก เนื่องจากมีความผิดตาม พ.ร.บ.สาธารณะสุข และหลังจากนี้จึงจะเข้าตรวจสอบใหม่อีกครั้ง”นายวิเชียร กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณที่มีปัญหาดังกล่าว ครั้งหนึ่งผู้ประกอบการบ้านสุขาวดี ก็เคยนำรถบัสโดยสารรับนักท่องเที่ยววิ่งผ่านเส้นทางจนทำให้ทางเท้าเกิดสภาพชำรุด เมืองพัทยา จึงสนธิกำลังหลายส่วนเข้าตรวจสอบ พร้อมสั่งการให้ยกเลิกการกระทำ และเมืองพัทยา ยังได้นำแผงเหล็กไปปิดกั้นทั้งสองฝั่งไว้เพื่อไม่ให้มีการนำรถเข้ามาวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวอีก กระทั่งได้รับการร้องเรียนในเรื่องดังกล่าวซ้ำ
โดยมีรางานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมืองพัทยา ยังได้ร่วมกับสำนักงานที่ดินจ.ชลบุรี สาขา อ.บางละมุง เข้าทำรังวัดพื้นที่บริเวณบ้านสุขาวดี เนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีหลายส่วนที่เป็นพื้นที่ถนนสาธารณะและพื้นที่ทะเลที่มีการถมไว้ โดยการตรวจพบว่ามีการก่อสร้างอาคารทับแนวถนนที่ทะลุต่อเชื่อมไปยังซอยบางละมุง 8 จึงได้ออกคำสั่งให้รื้อถอน ซึ่ง บ้านสุขาวดี ก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ยังเหลือเพียงในส่วนของอาคารขนาดใหญ่ ที่สร้างอยู่บนพื้นที่ที่ระบุว่าเป็นทะเล ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบและดำเนินการตาม กฎหมาย